Contact

เก็บเรื่องราวเอามาแบ่งปัน คุยกันแบบกันเอง Contact me: thoshiro @live.com or thoshiro007 @gmail.com

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

เว็บพันทิป กับการประท้วงของเหล่าสมาชิกเนื่องจากการสองมาตรฐาน

ลุกฮือในโลกคู่ขนาน

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:00:00 น.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1301409898&grpid=01&catid&subcatid



โดย บุญชิต ฟักมี   


            สำหรับวงการสังคมออนไลน์ไทย พันทิป ดอต คอม เป็นตัวละครสำคัญที่ยากจะปฏิเสธ
 

ค่าที่เป็นเวบบอร์ดที่มีอายุยืนยาวเกือบที่สุดของวงการอินเทอร์เน็ทไทย ตั้งแต่ยุคโมเด็ม 14 K ถึงไฮสปีด 6M ด้วยอายุเกินสิบปี ตั้งแต่สมัยที่สมาชิกทั้งเวบรวมกันสามารถนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันได้ในร้าน เดียว จนกระทั่งมีสมาชิกหลักหมื่นในทุกวันนี้

เวบพันทิป หรือพูดให้ถูก คือประชาคมพันทิป กระเพื่อมพลังสะเทือนออกมานอกจอหลายต่อหลายครั้งอย่างมีนัยยะ นับตั้งแต่การอุ้มชูหนังที่ทำท่าจะเจ๊งจนเป็นหนังระดับติดกระแสอย่าง "โหมโรง" ชุบชีวิตร้านหอยทอดลุงเตาถ่าน ไล่ล่าจับโกหกนักร้องเนปาลกำมะลอจนไปจบในเรือนจำ หรือถอดถอนโฆษณานับไม่ถ้วนที่ไม่ชอบด้วยจริตชุมชน

ในวันนี้ เวบพันทิปถูก "ท้าทาย" ครั้งสำคัญที่สุด จนน่าเสียดายหากจะปล่อยทิ้งหลงลืมโดยไม่มีการบันทึกไว้
นั่นคือการ "ลุกฮือ" ของผู้เล่นกลุ่มสำคัญ ที่ลุกขึ้นร้องถามความชอบธรรมในการดำเนินงานของผู้ดูแลเวบ หรือ Webmaster จนกระทั่งเกิดการปะทะกันเชิงอำนาจ ที่มีการสูญเสียสมาชิกภาพ (หรือเรียกลำลองว่า "อมยิ้ม") กันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเวบนี้
เรื่องมันเริ่มจากการที่ สมาชิกท่านหนึ่ง วาดการ์ตูนล้อเลียนวัฒนธรรมการกิน "บุฟเฟต์" ไว้ในห้องก้นครัว ซึ่งเป็นห้องที่พูดคุยแลกเปลี่ยนว่าด้วยอาหารและร้านอาหาร การ์ตูนนั้นล้อเลียนพฤติกรรมการกินบุฟเฟต์ที่ไม่พึงประสงค์หลายอย่าง รวมทั้งเสียดสีพฤติการณ์ของ "สมาชิก" ขาใหญ่หลายคน ในรูปแบบของการ์ตูนล้อเลียน ซึ่งคนที่อยู่นอกแวดวงคงดูไม่เข้าใจ หรือถึงเข้าใจ ก็ยากแก่การระบุตัวคน

อย่างไรก็ตาม การ์ตูนนั้นถูกลบโดยทีมงานของเวบพันทิป ด้วยข้อกล่าวหาว่า มีคำหยาบคาย แม้ต่อมา ผู้วาดได้ไปแก้ไขเอาคำหยาบคายออกแล้วมาโพสต์ใหม่ในกลุ่มการ์ตูน (เพื่อป้องกันการลบโดยอ้างว่าผิดห้องผิดกลุ่ม) แต่กระทู้การ์ตูนนั้นก็ยังถูกลบอยู่ดี พร้อมกับ สมาชิกรายหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลอาญาธนบุรี ว่าผู้วาดการ์ตูนหมิ่นประมาทตน โดยขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมายและบังคับให้จำเลยขอขมาตามคำขอแบบคดีหมิ่นประมาท ทั่วไป

คดีในศาลใช้เวลาต่อสู้กันเกือบปี ในขณะที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ฝ่ายโจทก์ก็ได้โพสต์ความคืบหน้าของคดีในลักษณะการ "เย้ย" ฝ่ายจำเลย รวมทั้งประการสำคัญที่สุด คือการอวดอ้างต่อบรรดาแฟนๆ ว่า จำเลยถูกศาลจับใส่กุญแจมือ

หากเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลได้มีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" จำเลย เนื่องจากโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ว่า ตัวการ์ตูนที่จำเลยวาดนั้นคือโจทก์ - กล่าวคือ ตัวการ์ตูนไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าเป็นใคร และโจทก์ก็ไม่ใช่คนเดียวที่ตั้งกระทู้ในเวบพันทิปชักชวนคนไปกินอาหารตามที่ ต่างๆ

เมื่อคำพิพากษาออกมาเช่นนั้น ฝ่ายจำเลยจึงมาประกาศแจ้งคำพิพากษาให้ผู้ใช้บริการคนอื่นๆในเวบดังกล่าวทราบ พร้อมกับนำเสนอภาพการทำอาหารเมนู "ฉลองอิสรภาพ" คือ มะระยำ ตำบอน และที่ฮือฮาที่สุดคือ "แลน" (หรือกล่าวให้สุด คือสัตว์ร่วมสกุล{Varanus} ของ "เหี้ย") ทอดสมุนไพร

ทว่าผลของกระทู้ดังกล่าว คือการระงับสมาชิกภาพของผู้ตั้งรวมทั้งลบกระทู้นั้นทิ้ง

ท่ามกลางเสียงคัดค้านโวยวายอย่างอึงอลว่ามีกลุ่มที่เรียกว่า "มาเฟีย" ในเวบพันทิป คือสมาชิกที่ได้รับการ "ให้ท้าย" จากกลุ่มผู้ดูแล  – เช่นในกรณีนี้ ที่ระหว่างฟ้องคดี ฝ่ายโจทก์จะเย้ยจะหยันจำเลยอย่างไรก็ทำได้ แต่เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีพ้นข้อกล่าวหา กลับถูกลบกระทู้และสมาชิกภาพ

และยังข้อกังขาของสมาชิก ว่าทางผู้ดูแลของเวบพันทิป ไปให้การในศาลในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ที่มีการเบิกความเป็นโทษเพื่อเอาผิดต่อจำเลยอย่างชัดเจนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง

สมาชิกที่คัดค้านเรียกร้องดังกล่าว ถูกระงับสมาชิกภาพลงในทันที หลังจากโพสต์ข้อความไม่นาน
 

ตามด้วยการระงับสมาชิกภาพของสมาชิกกลุ่มที่คัดค้านว่า การระงับสมาชิกภาพแบบสาดมั่วของผู้ดูแลเวบนั้นเป็นการลุแก่อำนาจ สมาชิกบางส่วน ไปตั้งกระทู้เสียดสีผู้ดูแลพันทิป ด้วยการตั้งกระทู้ที่เกี่ยวกับ "เป็ด" (ตามภาพของการ์ตูนที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาวาดจนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องร้อง)  แน่นอนว่า พวกเขาถูกระงับสมาชิกภาพในไม่กี่นาที
 

กระทั่งสมาชิกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่โพสต์คำว่า "เป็ด" ในช่วงนั้น ก็ถูกระงับสมาชิกภาพไปด้วย หรือแม้แต่กระทู้ที่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกลบหายเช่นกัน
แม้ว่าผู้ดูแลเวบ – วรพจน์ หิรัฐประดิษฐกุล จะอ้างว่า การลบสมาชิกภาพและกระทู้ดังกล่าวว่า นอกจากจะเป็นไปเพื่อป้องกันมิให้สมาชิกถูกฟ้องเนื่องจากคดี "ยังไม่แพ้ชนะ" แล้ว ยังเนื่องมาจากภาพอุจาดวาดเสียวในการชำแหละแลนในกระทู้ต้นเหตุ แต่เหตุผลดังกล่าวก็ยังฟังไม่ขึ้นสำหรับสมาชิกกลุ่มใหญ่ รวมทั้งเป็นคำอธิบายที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายด้วย  ความอึดอัดคับข้องดังว่านั้นทำให้มีผู้ยื่นขอคืนสมาชิกภาพหลายราย พร้อมกับสมาชิกภาพที่ถูกระงับ และกระทู้ถูกลบเพราะ "ลองของ" ในแทบทุกนาที ในช่วงวันพฤหัส วันศุกร์ ต่อวันเสาร์

และในที่สุด การต่อต้านทวงถามหรือเสียดสีอันมีเนื้อหาข้อความหรือรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับ "เป็ด" ก็ลุกลามไปทุกกลุ่มทุกห้องในพันทิป มี “อมยิ้ม” หรือสมาชิกที่สังเวยตนเองบ้าง ถูกลบถูกยึด มีทั้งผู้ที่ใช้บริการมานานเกินสิบปี หลายคนเป็นที่รู้จักว่าเป็นผู้ตั้งผู้ตอบเวบที่มีคุณภาพ หรือเป็นผู้เผยแพร่สูตรและวิธีทำอาหารที่ได้รับการยอมรับ ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่รอดจากการ "สังหารหมู่อมยิ้ม" ของพันทิปในช่วงสองวันเดือดที่ผ่านมา
ต้องไม่ลืมว่า การสมัครเป็นสมาชิกเวบพันทิปนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวาย ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวเองด้วยการแจ้งข้อมูลราษฎร์พร้อมหลักฐาน หรืออย่างน้อยคือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ไปให้เวบพันทิปเพื่ออนุมัติการมี "ล็อกอิน" หรือชื่อสมาชิกภาพ

แต่กระนั้น จนถึงขณะนี้ มีผู้ถูกระงับสมาชิกภาพ (เรียกลำลองว่า ยึดล็อกอิน) หรือคืนสมาชิกภาพด้วยตนเองแล้วเกินกว่าร้อยชื่อ จะด้วยความเหลืออดต่อความอยุติธรรม หรือกระไรก็ตามแต่ รวมทั้งมีผู้เข้าร่วมกลุ่ม  "มั่นใจว่าคนไทยเยอะแยะไม่เชื่อมั่นมาตรฐานเว็บพันทิป" ที่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อวันศุกร์ เกินกว่าเก้าพันคน และเชื่อว่าน่าจะเกินหมื่นคนได้ภายในวันหรือสองวันนี้

สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดจบ แม้จะคลี่คลาย ด้วยคำประกาศจากวันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเวบพันทิป ว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว และมีนโยบายที่จะไม่ให้มีการ "ยึดล็อกอิน" พร่ำเพรื่ออีก รวมทั้งจะทำการคืนสมาชิกภาพให้ผู้ที่ถูกระงับสมาชิกภาพโดยไม่เป็นธรรมต่อไป ซึ่งคุณวันฉัตรได้อ้างว่าเหตุที่ฝ่ายผู้ดูแลได้กระทำการดังกล่าว ก็เนื่องจากเกรงว่าเวบพันทิปจะต้องถูกฟ้องตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ประกอบกับจะปรับปรุงระบบการลบกระทู้ยึดล็ออกอินให้เป็นธรรมดีขึ้นกว่านี้

แต่ก็ยังมีคนเข้าร่วมกลุ่ม "มั่นใจฯ ไม่เชื่อมั่นมาตรฐานเว็บพันทิป" อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการคืนสมาชิกภาพก็ยังมีปรากฎประรายจนถึงวันนี้

เพราะความกังขาก็ยังมี ทั้งประเด็นว่า มีสมาชิกกลุ่มที่เวบพันทิป "ให้ท้าย" อยู่ และได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด หรือสมาชิกบางคน ใช้วาจาเกะกะระราน ด่าทอ เย้ยหยัน สมาชิกคนอื่นอย่างชัดเจนเป็นที่น่ารังเกียจ แต่ก็ดูเหมือนกับว่า ทางพันทิปก็ยังรักษาสมาชิกภาพไว้ให้อย่างเหนียวแน่น (ล่าสุดสมาชิก "ขาใหญ่" ผู้นั้น ได้ตั้งกระทู้ในทำนองอวดอ้างว่าได้ไปกินข้าวกับกลุ่ม "มาเฟียพันทิป" หรือสมาชิกเก่าแก่รุ่นก่อตั้ง อย่าง "สบายอารมณ์" ท่ามกลางกระแสการลุกฮือของสมาชิกกลุ่มหนึ่ง)

ใคร่ขอบันทึกไว้ ในฐานะของเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องฮือฮาในโลกไซเบอร์ไทย ที่อยากตั้งข้อสังเกตไว้ในฐานะที่มองเรื่องนี้ว่า "ไม่ธรรมดา" และอาจจะเป็น "บทเรียน" สำคัญ สำหรับการบริหารเวบต่อไปในทศวรรษต่อไปนี้
อันที่จริง ข้อกล่าวหาเรื่อง "มาเฟียพันทิป" หรือการใช้อำนาจไม่เหมาะสมของผู้ดูแลเวบนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกๆ ที่เกิดเป็นประเด็นโต้เถียงร้องทุกข์ เรื่องนี้ถูกพูดจากล่าวหากันมาตั้งแต่ช่วงขวบปีแรกของเวบพันทิปเสียด้วยซ้ำ

หากแต่ในครั้งนั้น และครั้งที่ผ่านๆมา เสียง "ต่อต้าน" หรือยกประเด็นเรื่องมาเฟียในเวบนั้นมักจะเป็นเสียงข้างน้อยที่ถูกมองว่าเป็น พวกอกหักตีรวน หรืออย่างเก่งคือ เสียงก้ำกึ่ง หาใช่ฉันทามติของคนกลุ่มใหญ่เช่นในครั้งนี้

และเกิดในยุคที่การสร้าง "พื้นที่" บนโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นที่เริ่มจะรุกคืบเข้ามาเกลื่อนกลืนในช่องทางแสดงอัต ลักษณ์อย่าง "เวบบอร์ด" ได้บ้าง อย่างเช่นเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์
 

ในยุคที่คำว่า "นายของเวบ" หรือ Webmaster อาจจะเป็นสิ่งล้าสมัย ด้วยถูกท้าทายด้วยคำว่า Social Network หรือสังคมออนไลน์ ที่ไม่มีใครเป็น "นาย" ใครเป็น "ข้า" ไม่มีใคร "ขึ้น" ใคร "ลง" ต่อกัน

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำไมอเมริกาต้องบุกอิรัก (ลิเบียด้วยมั้งนี่)

หาข้อมูลแล้วเจอดังนี้ครับ   (น่าตกใจนะ)

เดินคนละฟาก
โดย กมล กมลตระกูล ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3957 (3157)


เกจิอาจารย์ทางเศรษฐกิจเกือบทุกสำนักต่างประเมินว่าเศรษฐกิจของอเมริกาในปีหน้า 2008 มีลักษณะสาละวันเตี้ยลง อย่างไม่มีข้อสงสัย
และย่อมส่งผลถึงประเทศที่ยึดเอาเงินดอลลาร์เป็นพ่อหรือพระเจ้า
โดยไม่ยอมเปลี่ยนเงินสำรองของชาติ ไปเป็นเงินสกุลอื่น

นาย เอ็ดเวิร์ด เลเซียร์ ประธาน ของสภา ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ได้ออกมาแถลงกับผู้สื่อข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ก่อนหน้าที่ทำเนียบขาวเคยมองในแง่ดีว่า
จีดีพีในปีหน้า จะโตประมาณร้อยละ 3.1
แต่การประเมินใหม่ ตัวเลขจะเหลือเพียงร้อยละ 2.7
และตัวเลข คนตกงานจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9

ปัญหาของซับไพรมหรือหนี้ด้อยคุณภาพใน ภาคอสังหาริมทรัพย์ จะส่งผลถึงปีหน้า และทำให้ราคาบ้านลดลงแล้วร้อยละ 30 จากจุดที่เคยสูงสุด

ทาง ด้านไอเอ็มเอฟกลับประเมินตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกาไว้ เพียงร้อยละ 1.9 ในขณะที่จีน ยังสามารถเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ ร้อยละ 10 อินเดียก็เช่นเดียวกัน คือ ร้อยละ 8.4 และรัสเซียที่ ร้อยละ 8

ในขณะ เดียวกัน ทางกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว 25 ประเทศ หรือ OECD ก็ได้ประเมินว่าเศรษฐกิจในประเทศของตนจะลดลงเหลือ ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับ 2.7 ในปี 2007 ที่ผ่านมา (ดูตาราง)

อันที่จริงสาเหตุเศรษฐกิจขาลงทางด้านเศรษฐกิจมหภาค
ยังไม่ใช่สาเหตุหลักของหายนะของค่าเงินดอลลาร์ และจุดเริ่มความล่มสลาย ของระบบเศรษฐกิจอเมริกันในทศวรรษหน้า

สาเหตุที่แท้จริงคือ การซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกกำลังจะเปลี่ยนไปใช้เงินตราสกุลอื่น เช่น ยูโร หรือ เยน ที่เกิดจากการผลักดัน ของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซุเอลา และล่าสุด ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) ครั้งที่ 146 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่เมืองอาบู ดาบี ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ผ่านมานี้ อิหร่านได้กระโดดเข้ามาผลักดันแนวคิดนี้อย่างจริงจัง โดยเสนอให้ตั้งธนาคารโอเปกขึ้นมา และให้เลิกซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกด้วยเงินดอลลาร์

ทำไมการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นการคุกคามเศรษฐกิจอเมริกา

ปี ที่แล้วอเมริกาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (current account deficit) $811 พันล้านเหรียญ - 8.11 ล้านล้านเหรียญ หรือ 6% ของจีดีพี ตัวเลขนี้ คือ รายจ่ายที่มากกว่ารายรับ

การ ที่อเมริกาเป็นประเทศเดียวที่สามารถ ขาดดุลชำระเงินและขาดดุลการค้าได้มากขนาดนี้ หรือ เรียกว่า "การขึ้นรถฟรี (free rider)" ก็เพราะได้ใช้อิทธิพลทำข้อตกลงกับกลุ่มประเทศโอเปกเมื่อปี 1971ให้การซื้อขายน้ำมันโลกใช้เงินดอลลาร์เพียงสกุลเดียว

ข้อ ตกลงนี้ทำให้ทุกประเทศที่บริโภคน้ำมัน ต้องสะสมเงินดอลลาร์เพื่อใช้ในการซื้อน้ำมันเข้าประเทศ และการซื้อขายน้ำมันโลกร้อยละ 85 ซื้อขายกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา และหมุนเวียนกันอยู่ภายนอกอเมริกา

ด้วยเหตุนี้ ธนาคารกลางสหรัฐจึงสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาได้อย่างไม่จำกัด (ตามข้อตกลงของไอเอ็มเอฟ โดยที่ไม่ต้องมีทองคำมาสำรองตามจำนวนที่พิมพ์ออกมา) และไม่ต้องหวั่นว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นภายในประเทศ

เงินที่พิมพ์ ออกมานี้ก็คือเงินที่ใช้ในการซื้อสินค้าหรือจ่ายหนี้ให้ประเทศที่อเมริกานำ เข้าสินค้า มาตรฐานชีวิตคนอเมริกัน จึงสูงที่สุดในโลก เพราะพิมพ์เงินออกมาซื้อฟรี กินฟรีสินค้าจาก ทั่วโลก หรือลงทุนในประเทศอื่นๆเพื่อหากำไร ส่งกลับเข้าประเทศ ประเทศที่ขายสินค้าให้ อเมริกาก็นำเงินดอลลาร์มาเป็นเงินสำรอง หรือนำมาไว้ใช้ซื้อน้ำมันมาบริโภค และเพื่อนำเข้ามาผลิตสินค้าไว้ขายอเมริกาต่อไปเป็นวงจร

หรือไม่ก็นำ มาซื้อพันธบัตรของรัฐบาลอเมริกัน (U.S. Treasury Bonds) ซึ่งก็คือ นำเงินที่ขายสินค้าได้ดุลมาให้อเมริกาที่เป็นผู้บริโภคกู้เพื่อนำมาซื้อ สินค้ากลับไปกินไปใช้ใหม่ (recycle)

ตัวเลขในปี 2007 จีน ถือพันธบัตรอเมริกันไว้ทั้งสิ้น 396.7 พันล้านเหรียญ หรือเกือบๆ 4 แสนล้านเหรียญ ส่วนญี่ปุ่นเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่สุดของอเมริกา คือ 582.2 พันล้านเหรียญ หรือเกือบ 6 แสนล้านเหรียญ

ประเทศผู้ขายน้ำมันก็นำ เงินดอลลาร์มาขาย ในตลาดเงิน - Foreign Exchange Markets (Forex) เช่น ที่ลอนดอน หรือนิวยอร์ก สิงคโปร์ ให้ประเทศที่ต้องการบริโภคน้ำมันซื้อไปเพื่อใช้ซื้อน้ำมันต่อไป

เงินดอลลาร์จึงหมุนเวียนอยู่ภายนอกอเมริกาเป็นเช่นนี้มาหลายสิบปีติดต่อกันมา

แต่ วงจรนี้กำลังจะถูกทำให้สะดุด และอเมริกาจะยอมไม่ได้ เพราะว่าถ้าปล่อยให้มันเกิดขึ้น หนี้สินจำนวน 8.11 ล้านล้านเหรียญที่อเมริกา เป็นหนี้ชาวโลก ก็ต้องหามาจ่าย และอเมริกาก็ไม่มีเงินนี้จ่าย นอกจากจะต้องขายทรัพย์สิน หรือบริษัทไปสักครึ่งประเทศ

ประธานาธิบดีซัดดัมแห่งอิรักบังอาจท้าทาย ความเป็นอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของอเมริกา โดยขายน้ำมันของตน ด้วยเงินยูโรแทนดอลลาร์ ในปี 2000 และเปลี่ยนเงินสำรองประเทศของตนเป็นยูโรด้วย ทำให้หลายๆ ประเทศ ที่ซื้อน้ำมัน จากอิรักต้องเปลี่ยนตามไปด้วย

ความ ต้องการ (demand) ดอลลาร์ในตลาดโลกจึงทยอยลดลง ในปี 2002 เงินดอลลาร์ มีค่าลดลงร้อยละ 18 พอถึงปี 2003 อเมริกา จึงบุกอิรัก โดยอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ (อิหร่าน อาจจะโดนเช่นเดียวกัน) จากนั้นก็เปลี่ยนการ ซื้อขายน้ำมันของอิรักจากเงินยูโรกลับมาเป็น เงินดอลลาร์ใหม่

อิหร่านเริ่มยุติการซื้อขายน้ำมันของตนจากเงิน ดอลลาร์มาเป็นเงินยูโรแทนเมื่อปี 2003 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ค่าเงินดอลลาร์ก็ลดลงแล้วถึงร้อยละ 30 ในวันนี้ ตามหลักความต้องการซื้อ (demand) และความต้องการขาย (supply) เมื่อความต้องการซื้อลดลง ราคาของสิ่งนั้นก็ลดตามด้วย

การ แก้เกมของอเมริกาคือ การปั่นราคาน้ำมันโลกให้สูงขึ้นเพื่อสร้างความต้องการซื้อดอลลาร์ให้อยู่ใน ระดับเดิม ทุกวันนี้ราคาน้ำมันจึงพุ่งทะยานขึ้นเกือบแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว

ถ้า วิธีนี้ไม่ได้ผล อเมริกาอาจจะตัดสินใจ โจมตีอิหร่านเหมือนเช่นที่ทำกับอิรักด้วยเหตุผลเดียวกันคือ กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยใช้ยุทธวิธี "โจมตีก่อนแล้วพิสูจน์ทีหลัง" (pre-emptive strike )

อย่างไรก็ตามอิหร่านเป็นประเทศใหญ่ กว่าอิรักมาก มีประชากรมากกว่า ถ้าอเมริกาโจมตี และเข้ายึดครอง ก็อาจจะเป็นสงครามยืดเยื้อกว่าสงครามอิรัก และอาจจะต้องลงทุนด้วยชีวิต ทหารอเมริกันมากกว่าอิรักอีกหลายเท่า

คนอเมริกันจำนวนมากจึงไม่เห็น ด้วย รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ รัฐบาล และสื่อมวลชน ดังนั้นจึงมีรายงานวิจัย เผยแพร่ออกมาว่าอิหร่านได้ยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วตั้งแต่ปี 2003 เพื่อป้องกัน ไม่ให้ประธานาธิบดีบุชโจมตีอิหร่านเสียก่อน แล้วพิสูจน์ทีหลัง

ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ก็ยุติการขาย น้ำมันของตนด้วยเงินดอลลาร์ไปแล้ว แต่ขายเป็นเงินยูโรแทน ดังนั้นโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่ากลับมามีอิทธิพลในตลาดเงินโลกเหมือน เดิมจึงมีโอกาสน้อย หรือเป็นไป ไม่ได้เลย

สถานการณ์ข้างต้นเป็น สัญญาณขาลงของอภิมหาอำนาจที่ครองความเป็นเจ้ามาเป็นเวลาเกือบ 60 ปี ซึ่งสั้นกว่ายุคล่าอาณานิคมที่ยาวนานเป็นร้อยปี

หายนะของประเทศไทย

การ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังดึงดันอิง ค่าเงินบาทกับดอลลาร์ และเก็บเงินสำรองของประเทศ เป็นเงินดอลลาร์ซึ่งนับวันจะมีค่าน้อยลงไปทุกวัน คือ ลางแห่งความหายนะของเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศ

ยิ่งนำเงินบาทไป สู้ค่าเงินเพื่อรักษาค่าเงินบาทไม่ให้แข็งเกินไปซึ่งความแข็งค่าของค่าเงิน บาท เป็นเพียงภาวะชั่วคราว และเป็นเพียงมายา เพราะไม่ได้เกิดจากการค้าที่เราได้ดุล แต่เกิดจากเงินร้อน (portfolio investment-PI) ไหลเข้ามาเก็งกำไรในตลาดทุน และตลาดเงิน ซึ่งสามารถไหลออกเมื่อไรก็ได้

การสู้ค่าเงินบาทไม่ให้แข็งเพื่อช่วย ผู้ส่งออก ไม่กี่ราย และขาดทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท แต่ละเลยประโยชน์ที่ประเทศ จะได้กำไรจากการซื้อน้ำมันได้ถูกลงตามค่าเงิน ที่แข็งขึ้น เช่น ค่าเงินที่แข็งขึ้นร้อยละ 20 ไทยนำเข้าน้ำมันปีละ 5 แสนล้านบาท ก็จะประหยัดเงินไปได้ 1 แสนล้านบาท นี่ยังไม่รวมสินค้าทุน และวัตถุดิบที่นำเข้าในราคาถูกลงอีก

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่นเป็นกิจการของกลุ่มผูกขาด (oligopoly) เงินกำไรจากค่าเงินจำนวน 1 แสนล้านบาท จึงไม่ตกเข้ากระเป๋าของระบบเศรษฐกิจของประเทศ หรือประชาชนทั่วไป แต่ไปเข้ากระเป๋าของกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ซึ่ง ปตท.ก็ถูกแปรรูปไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นนโยบายของ ธปท.จึงเป็น 2 เด้งที่ซ้ำเติมประเทศชาติ ยิ่งการเมืองไทยในวันนี้ยังวนเวียนอยู่ในหมู่นักการเมือง ที่ล้วนเคยสร้างความหายนะให้กับประเทศชาติมาก่อนทั้งสิ้น

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

ซื้อหนังสือออนไลน์ สะดวก ปลอดภัย ถูกด้วยครับ

ลองใช้บริการของ se-ed ดูสิครับ   http://www.se-ed.com/eShop/default.aspx

ทั้งหนังสือที่เค้าพิมพ์เองหรือสำนักพิมพ์อื่นก็ซื้อได้  โอนเงินเข้าเว็ปเค้าได้จากทุกแบ็งค์เลย
โอนเงินแล้วให้ส่งทางไปรษณีย์ก็ได้   แต่ผมชอบให้เค้าส่งมาที่ร้าน se-ed ใกล้ๆบ้านเพราะส่งฟรีครับ
หนังสือมาแล้วร้านก็จะโทรมาบอกให้ไปรับ  สะดวกปลอดภัยสั่งวันนี้สามโมงเย็นมะรืนก็ได้แล้วส่งฟรีด้วย

    ผมลองซื้อบางเล่มที่มีส่วนลดพิเศษ (น่าจะมาจากมีคนอ่านฟรีที่ร้านแล้วสภาพอาจจะไม่สวยเต็มร้อย)
ได้ส่วนลดมากกว่าสมาชิก แถมหนังสือก็ดูปกติดีครับ

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

ซื้อของผ่านเน็ทเสี่ยงหรือไม่ เชื่อได้หรือเปล่า

สำหรับผมเองนั้นซื้อและขายมาเยอะแล้ว ขอบอกว่าถ้าเราซื้อเป็นก็ไม่เสี่ยงครับ

1. ซื้้อกับผู้ขายในเว็ปดังๆ เช่น Ebay หรือของไทยเช่น Tarad ถ้าผู้ขายอยู่มานาน ขายไปเยอะๆ ไม่เสี่ยงแน่

2. ซื้อกับคนทั่วไป   อันนี้เสี่ยงหน่อย แต่บางเว็ปก็มีการยืนยันตัวผู้ขายไว้ และดูผู้ขายที่ค่อนข้างเป็นมืออาชีพ ก็ไม่น่าโดนโกงครับ   แต่ถ้าไม่มั่นใจคนขายก็สามารถนัดเจอเพื่อรับของ หรือ จ่ายแบบเก็บเงินปลายทางได้ครับ   ลองเอาชื่อและเบอร์โทรของผู้ขายค้นในกูเกิ้ล คนที่โกงประจำค้นแป๊บเดียวเจอเพียบ

อย่าเห็นแก่ของถูกๆ อย่าโอนเงินไปก่อน(โดยไม่เช็คให้ดี)  อย่าเชื่อคนง่าย ขอให้โชคดีครับ

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำไมไม่ซื้อ iPhone

           คำถามนี้จัดเป็นคำถามโลกแตกได้เหมือนกันครับ ผมอ่านบทความข้างล่างแล้วโดนใจมากๆเลย ซึ่งเรื่องทำนองนี้ก็แล้วแต่คนชอบละครับ   ก็เหมือนซื้อรถยี่ปุ่นมาทำไมนั่นแหละ คือสรุปว่ามันคุ้มเงินกว่านะครับ แค่นี้ก็พอแล้วจะจ่ายแพงกว่าไปทำไม หน้าตาก็มีแล้วของหรูๆแพงๆไม่ต้องการครับ

           ถ้าไอโฟนมันถูกจะซื้้อมั้ย ซื้อสิครับแต่โปรแกรมต่างๆต้องฟรีหรือถูกๆด้วยนะครับ อิอิ  

ความนิยม 148ได้อ่านไปแล้ว 2673 ครั้ง 2011-2-16 22:07

นี่เป็นปัญหาโลกระเบิดที่เกิดขึ้นสำหรับชาวเรา
ย้ำว่าชาวเราเพราะหลายๆคนในบอร์ดต้องมีความรักและเชื่อใจในระบบนี้ที่ทุกคน(ที่อ่าน)ต้องรู้จัก "Android" นั่นเอง
แล้วหลายคนคงเจอปัญหานี้แน่นอนกับคำว่า  ทำไมไม่ซื้อไอโฟน(สำหรับคนที่ใช้ระดับตัวแม่อย่าง กาแลคซี่เอส เป็นต้น) อีกฝ่ายคือคนที่ใช้ระดับตัวพ่ออีกตัวที่กำลังเป็นที่นิยม(ขออวยหน่อยละกันผม ก็ใช้) ทำไมไม่ซื้อไอแพด(สำหรับคนใช้กาแล็คซี่แท็บ)  เจ็บจี๊ดไหมครับ สำหรับคุณผมไม่ทราบว่าคิดไง  แต่สำหรับผมจากใจชิลๆสบายๆ หงุดหงิดบ้าง  แต่ทุกอย่างมันก็เป็นกระจกเงา!  หรือคุณมองว่ามันเป็นอะไร?
 
ส่วนตัวผมมองมันเป็นกระจกครับ คือมันมีสองด้านเสมอ
ด้านมืดด้านนึง  ด้านที่มองเห็นตัวตนของมัน(ตัวเราด้วย)ด้านนึง
คือผมไม่เคยแอนตี้ IOS เพียงแต่ผมไม่ชอบการอยู่ในกรอบ  ผมเกลียดอะไรที่ข้อจำกัดเยอะๆครับ
ก่อนหน้านี้ผมเจอคำถามเยอะแยะมากมาย "ทำไมซื้อ Galaxy Tab ทำไมไม่ซื้อ iPad"
ผมยอมรับครับว่าครั้งแรกที่เจอคำถามแบบนี้รู้สึกเครียด อึดอัด และไม่อยากจะตอบคำถามนี้ ออกแนว
"มึงยุ่งไรกับกู"  แต่พอมานั่งคิดดู "ก็เขามองไม่เห็นอีกด้านของ Android นี่นา!
ผม จะบอกตรงๆว่าคนไทยหลายๆคนใช้ของกันติดตรงคำว่า ยี่ห้อ ศักดิ์ศรีความหรูหราไฮโซ ในขณะที่ลืมมองย้อนกลับไปที่ "ประโยชน์ที่จะได้รับหลังจากเสียทรัพย์ไป"(ทรัพจางที่หลายๆคนเป็นกัน)
ผมยอมรับครับว่าเป็นคนกวนตีนมาก  ผมเคยถามคนที่เคยถามผมว่า "ทำไมไม่ซื้อไอโฟน"   ไปว่า "เธอๆเราถามเธอคืนได้มั๊ยว่าไอโฟนทำอะไรได้บ้าง กว่าเธอจะซื้อมันเธอเคย ศึกษาหรือเปล่า แล้วก่อนซื้อเนี่ยเธอรู้จักไอจูนไหม เธอคิดว่ามันเหมาะกับตัวเธอหรือเปล่า  เธอทำไมถึงซื้อไอโฟนอ่ะบอกเราหน่อยสิ"
ครับนี่คือคำถามที่ผมถามไปแล้วเพื่อนคนนั้นเอ๋อแดกเป็นใบ้อยู่พักนึงก่อนจะบอกออกมาว่า "มันสวยดี  เห็นคนใช้เยอะดี"
ครับผม! ผมว่าร้อยละ 70 ของคนที่ถือไอโฟนตอนนี้ตอบประโยคนี้ชัวร์ ฟันธง แรงหน่อยจะตอบว่า "ไฮโซดีค่ะ" บางคนแรงกว่าที่คิดก็จะตอบว่า "มีเงินย่ะ" แล้วก็ยิ้มแห้งๆ -_-"
 
ครับที่พล่ามมายาวเป็นปีแสงประเด็นที่ผมจะสื่อคือ  คนสมัยนี้มองอะไรก็ต้องคิดว่าแบรนด์ดังจนลืมไปว่า  ประโยชน์ที่จะได้รับคืออะไร  มีหลายคนที่ซื้อมาแล้วมานั่งบ่นกับผมว่า  "ไอจูนยุ่งยากจังเลย  ส่งบลูทูธก็ไม่ได้ พิมงานก็ต้องส่งเข้าเมล์ แต่กล้องชัดดีนะ" อ้อ...ถ้าอย่างนั้นไมไม่ซื้อกล้องดีๆซักตัวล่ะครับ  ไม่ก็ถ้าอยากฟังเพลงไมไม่เอาแค่ไอพอดล่ะครับ(ผมชอบไอพอดมาก เคยอยากซื้อมาก  แต่ซื้อแท็ปแล้วไม่มีตังค์ละ อิอิ) ครับนี่คือผลของการไม่ศึกษาให้รู้ลึกรู้จริง  ไม่ได้คิดก่อนว่าผลที่ได้รับมันคุ้มไหมกับที่คุณเสียเงินไป  จนสุดท้ายไอโฟนก็เป็นแค่เครื่องประดับแทนที่มันจะถูกใช้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพจริงๆของมัน(เพราะจริงๆแล้วของเค้าดีจริงครับ  ทำไรได้เยอะ  แต่แค่เหมือนโดนขังเฉยๆอ่านะ แต่ถ้าศึกษาดีๆมันก็มีวิธีแหกคุก แต่...เชื่อมะบางคนถือไอโฟนแต่ไม่รู้จักคำว่า เจลแบคด้วยซ้ำ)
ที่กล่าวมาคุณจะเห็นได้เลยล่ะครับว่าผมเป็นกลางขนาดไหน  ผมไม่เคยดูถูกค่ายใด  และไม่ได้บอกว่าค่ายไหนดีไม่ดี  แต่ที่จะบอกคือ  อยากให้คุณทุกคนที่จะซื้ออะไรช่วยศึกษาก่อนจะดีไหมครับ!
 
ทั้งนี้ผมชื่นชมหลายๆคนครับที่เขาศึกษาก่อนที่จะซื้อมือถือสักเครื่อง  ผมเองก็เป็นอีกคนที่ก่อนจะตัดสินใจควักเงิน 20000 ซื้อน้องแท็ปไป  ผมนั่งคิดนอนคิดและศึกษา Android จนมั่นใจว่าซื้อมาแล้วผมจะได้รับอะไรจากมันบ้าง  มันมีข้อดีตรงไหน  มีข้อเสียตรงไหน  และสิ่งสุดท้ายที่ผมคิดคือ  เมื่อผมได้มันมา  ผมจะได้รับประโยชน์จากมันตรงตาม Life Style ของตัวผมหรือเปล่า  และแน่นอนว่ามันลงตัวผมถึงยอมจ่ายเงินออกไปและผมก็ไม่เสียใจกับการจ่ายเงิน ไปเพื่อแลกของสิ่งนี้มาครับ ณ จุดๆนี้  และตอนนี้ใครมาถามว่าทำไมผมถึงเลือกแท็ป ไมไม่เลือกแพด ผมก็จะยิ้มๆและบอกเหตุผลไปจนตอนนี้หลายๆคนเข้าใจ  รู้จักแอนดรอยจากผมนี่แหละครับ(จริงๆซัมซุงน่าจะจับผมไปเป็นเซเลปนะ มือถือ แคนดี้  เครื่องเล่นMP3แต่ผมเอาไว้ใช้อัดเสียงอาจารย์+ฟังเพลงตอนเล่นฟิตเนสน่ะ ไหนจะมีน้องแท็ปอีก  ไหนจะมือถือแม่กับน้องก็ซัมซุง เออ...มามะจ่ายค่าโปรโมตซะดีดีซัมซุง5555+) คือที่จะบอกทุกคนคือตอนนี้ผมเริ่มปลงแล้วครับกับคำถามเหล่านี้ของคนที่ยัง ไม่ศึกษามาดี  ผมคิดว่าจากที่เราเครียดว่าถามทำไม  เรามาเปลี่ยนเป็นอธิบายให้เขาฟังจะดีกว่าครับผม  อย่างน้อยก็เป็นการบอกให้เขารู้ถึงประโยชน์ที่เราได้รับ  และให้เขารู้ว่าเราศึกษามาดี  จะได้เข้าใจในจุดๆนี้จะดีกว่าครับ(แลดูเราเป็นคนใส่ใจในรายละเอียดดีออก   แลดูเก่งไปเลย อิอิ)
 
สุดท้าย  อยากฝากถึงใครๆที่จะซื้อของราคาแพงๆ  อยากฝากว่าเงินทองหายากครับ  ดังนั้น  การจะจับจ่ายใช้สอยมัน  คุณช่วยคิดก่อน  ช่วยดูก่อนว่ามันตอบโจทย์คุณได้มากน้อยแค่ไหน  ผมไม่อยากให้เป็นเหมือนเพื่อนผมคนนึงที่ใช้ไอโฟน  แต่สุดท้ายก็ดันต้องซื้อ BB เพราะ BB ตอบโจทย์ได้มากกว่า  แล้วทิ้งไอโฟนให้นอนเล่นอยู่บนเตียง...โดยที่นอกจากเสียเงินฟรีแล้วยังใช้ ประโยชน์จากมันได้ไม่เพียงพออีกด้วยครับ เสียเงิน เสียเวลา  เสียวามรู้สึกของผู้พบเห็นอีก  ฝากทุกๆคนที่จะซื้อของด้วยนะครับคิดก่อนซื้อครับผมจะได้ไม่มาเสียใจเสียดาย ภายหลัง สงสารพ่อแม่ครับกว่าจะหาเงินได้  ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านครับ ชอบไม่ชอบติชมตามสบาย  เห็นด้วยไม่เห็นด้วย เชิญเลยครับ

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

โปรแกรมฟรี แปลงไฟล์วีดีโอ มาดูในมือถือ Any Video Converter

ขอแนะนำ Any Video Converter ครับใช้งานได้ดีง่าย และฟรีครับ ฮ่าๆๆๆ
http://www.any-video-converter.com/products/for_video_free/

สามารถแปลงไฟล์วีดีโอรูปแบบต่างๆ ให้กลายเป็น MP4 เพื่อดูใน Iphone และมือถือ Android รุ่นต่างๆได้สบายๆ

แนะนำให้เลือก output เป็นรูปแบบตามนี้ครับ  ภาพและเสียงชัดเพียงพอกับจอ Smart Phone แน่นอนครับ

Profile   Mobile Phone MPEG-4
Video option
Frame size    640x480
Bit rate    768
Frame rate 30
Audio option   ใช้ตามที่เค้ากำหนดมาเลยครับ

"Dream Rangers" คนเรามีชีวิตอยู่(ในวัยชรา)เพื่ออะไร

"Dream Rangers" สังกัด โอกิลวี ไต้หวัน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง และเช่นเดียวกัน ในเว็บไซต์ youku ของจีนแผ่นดินใหญ่ ก็มีผู้คลิ๊กชมมากเกือบ 500,000 ครั้งแล้ว ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์



      
      ความประทับใจในเรื่องราวของโฆษณาชิ้นนี้ อยู่ที่สร้างมาจากชีวิตจริงของชายชราไต้หวัน วัยราว 80 ปี กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าที่มีประสบการณ์ชีวิตอันงดงามร่วมกัน เขากลับมาพบกันอีกครั้ง จากการไปร่วมงานศพของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม และได้รู้ว่าคำถามที่พวกเขาต่างเผชิญในวัยดึกนี้ คงมีเพียงว่า เวลาที่เหลือของแต่ละคนนี้ จะอยู่เพื่ออะไร เพื่อคิดถึงใคร เพื่อรักษาลมหายใจไว้ หรือเพื่อจะรอวันตาย
      
      แล้วขณะชีวิตเริ่มลอยตามน้ำเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ชายแก่ทั้ง 5 คน กลับสร้างแรงบันดาลใจคืนมาให้ตนเอง จากความฝันครั้งสุดท้ายที่พวกเขาตั้งใจจะทำให้สำเร็จ เพื่อพิสูจน์ตนเองอีกครั้งกับชะตาชีวิต นั่นคือขี่มอเตอร์ไซค์ คึกรอนแรมไปทั่วหล้าเหมือนตอนหนุ่มๆ
      
      ทว่า ในวัยปูนนี้ แต่ละคนพกโรคประจำตัวมาคนละโรคสองโรค คนนึงหูตึง คนนึงเป็นมะเร็ง ที่เหลือเป็นโรคหัวใจ และทั้งหมดข้อกระดูกเสื่อม ดังนั้น เพื่อให้การเดินทางไม่กลายเป็นการฆ่าตัวตาย พวกเขาต้องฟื้นฟูเตรียมสภาพร่างกายเป็นเวลา 6 เดือน จนพร้อมที่จะขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปทั่วเกาะไต้หวัน จากเหนือจรดใต้ นาน 13 วัน 13 คืน ระยะทางกว่า 1,139 กิโลเมตร จนได้ไปถึงสถานที่ซึ่งพวกตนเคยมีวันดีๆ ร่วมกัน รื้อฟื้นภาพความทรงจำในอดีตให้กลับมาชัดเจนตรงหน้าอีกครั้ง...
      
      ผลงานโฆษณาชิ้นนี้ เป็นของ Ogilvy & Mather ไต้หวัน สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มนักบิดไต้หวัน วัยเฉลี่ยกว่า 81 ปี โดยมีครีเอทีฟและผู้เขียนบท คือ เจนนิเฟอร์ หู ออกแบบศิลป์ โดย ลีอา เฉิน และกำกับฯ โดย ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับมือหนึ่งของ Phenomena ประเทศไทย ที่ทำให้ "Dream Rangers" กำลังเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่คนไต้หวันและชาวเน็ตฯ จีนแผ่นดินใหญ่ชื่นชอบกันในขณะนี้
      
      "Dream Rangers" จัดเป็นเรื่องราวที่ให้กำลังใจ และพิสูจน์ว่าศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขตไม่ได้ขึ้นกับวัยและสังขาร เหมือนคำกล่าวในภาษิตจีนที่ว่า "ภัยของวัยชรา หาใช่ความเสื่อมถอยของร่างกาย แต่คือการถดถอยทางจิตวิญญาณ และความฝันต่างหาก"

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เริ่มเล่นหุ้นด้วยเงินน้อยๆได้ไหม

ได้นะครับ  บางโบรกเกอร์(นายหน้า) ก็ไม่ได้มีการกำหนดการฝากขั้นต่ำไว้ในบัญชี
เช่น ธนชาติ  ซีมิโก้

ดูรายระเอียดได้ที่
 http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/StaticPage/OpenAccount/compare_member.html

Golf มือใหม่ หัดเองหรือไปเรียนกับโปร


การเล่นกอล์ฟถ้าจะเอาดีแล้ว วงสวิงคือว่าสำคัญมากๆ การเริ่มต้นที่ดีย่อมเหมือนกับสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว

ผมเปรียบวงสวิงเหมือนท่าทางการเดิน  ใครมีท่าเดินไม่เหมาะสม ก็ดูไม่ดี และมีปัญหาตามมา เช่นเดินเหมือนเป็ด ใครเดินดีดูสง่าน่ามองเหมือนดั่งนายแบบ เดินเร็วๆก็ได้ เดินไกลๆก็ไม่มีปัญหา  แต่ท่าทางการเดินก็สามารถแก้ไขได้ (แต่ยากหน่อยนะ)

กอล์ฟเป็นกีฬาดังนั้นจะหัดเองหรืออ่านหนังสือมา แล้วลองทำตามก็น่าจะได้
แต่การไปเรียนกับครู (โปร) เป็นเร็วและ ถูกทางมากกว่ากันเยอะเลย
ค่าเรียนอาจจะดูแพง แต่ระยะยาวแล้วคุ้มที่สุดครับ  บางทีซื้อไม้กอล์ฟอันนึงยังแพงกว่าเลย

การหัดเองมักพบความเสี่ยงที่จะมีวงประหลาด ดูแล้วแปลกๆบางทีก็น่าขำ ใครเห็นก็ต้องปลง
ถ้ามีวงสวิงที่ดี จะสามารถพัฒนาฝีมือได้ดี และเร็ว อีกทั้งมีท่าทางที่สง่างามน่ามอง เสริมบุคคลิกได้ด้วย
การปรับแก้วงสวิงนั้นสามารถทำได้ตลอด เหมือนปรับลายมือให้สวยขึ้น แรกๆอาจจะติดๆขัดๆเดี๋ยวก็ชินไปเอง

การเลือกโปรควรหาโปรที่สอนเก่งนะครับ (โปรที่เล่นกอล์ฟเก่ง อาจสอนคุณไม่เก่งก็ได้ครับ)

Swype Keyboard มันคืออะไร ใช้ยังไง

การใส่ข้อมุลในอุปกรร์พกพาในสมัยนี้ มันก็มีหลายรูปแบบ

  1. ปุ่ม Keyboard ขนาดเล็ก เช่น Blackberry
  2. จิ้มหรือลากบนหน้าจอสัมผัส เช่น Palm, Pocket PC
  3. ลากบนจอด้วยนิ้ว แบบ Iphone และ Android

เจ้า Swype Keyboard นี้ก็ใช้สำหรับแบบหลังสุดนี้แหละครับ
การทำงานของมันก็ง่ายแสนง่าย แค่ลากนิ้วผ่านตัวอักษรต่างๆดังรูป

คำว่า Maps เกิดจากการลากดังรูป ซึ่งที่จริงแล้วโปรแกรมมันจะช่วยเดาศัพท์ด้วย
ผมลองใช้แล้วเวิร์คจริงๆ ข่าวดีคือมีภาษาไทยด้วย และถ้าใช้ซัมซุงแบบผมฟรีด้วย ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ยี่ห้ออื่นๆก็สามารถซื้อได้นะครับ ลองค้นหาดู -> TSwype

รวมcode ขอใช้บริการต่างๆจากมือถือทั้ง DTAC และ AIS

[ DTAC ]

สำหรับ Dtac รายเดือน

USSD
*102*1*เบอร์# เช็คเป็นเบอร์ dtac หรือไม่
*121# เช็คยอดค่าโทร
*121*1# เช็คนาทีที่โทร สำหรับ Feel Free ต่อวัน
*121*2# เช็คนาทีที่โทร สำหรับ Feel Free ต่อเดือน
*121*3# เช็คค่าโทรที่ตัดบิลแล้ว เหมาะสำหรับแจ้งชำระผ่าน 7-11
*124# สมัครใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ
*140# สมัคร Goood Bonus
*140*1# แสดงข้อความเพื่อรับสิทธิพิเศษในโครงการ Goood Bonus
*141*เบอร์แฮปปี้*จำนวนเงิน# บริการเติมเงินให้ Happy (คิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 2 บาท ไม่รวมภาษี)
*149*เบอร์ปลายทาง# บริการ Call Me Back
*772# ตั้งค่ามือถือสำหรับ GPRS, EDGE

IVR
*119 Ring for U
*1802 Voice Mail Box (ค่าโทรตามโปรที่ใช้)
*1812 บริการ Bill Manager
*1888 ฟัง/เปลี่ยนแพ็คเกจ ยกเลิกบริการเสริม เช็คยอดค่าโทร จ่ายค่าโทรผ่านมือถือ
*1877 ตรวจสอบสิทธิโทรฟรีในวันเกิด
*7102 สมัครบริการ Dtac No. Alert
*767 > รหัสพื้นที่ บริการแจ้งเวลาละหมาด
1678 Dtac Call Centre
สำหรับ Happy

บริการทางลัด
*100*sn+รหัส# เติมเงิน
*101# เช็คยอดเงินคงเหลือ(อังกฤษ)
*101*9# เช็คยอดเงินคงเหลือ(ไทย)
*101*1# เช็คยอดโบนัสคงเหลือ (อังกฤษ)
*101*1*9# เช็คยอดโบนัสคงเหลือ (ไทย)
*101*2# เช็คยอดsms คงเหลือ
*101*3# เช็คยอดmms คงเหลือ
*101*4# เช็คยอดgprs คงเหลือ
*102*1*เบอร์# เช็คเป็นเบอร์ dtac หรือไม่
*102# เช็คการลงทะเบียน dtac sim
*103# เช็คโปรโมชั่น (ไทย)
*103*9# เช็คโปรโมชั่น (อังกฤษ)
*104# เช็ค gprs ตามโปร
*105# เช็ค gprs
*106# เช็คโบนัส vasup คงเหลือ
*107# sf movie sim
*108# เช็คยอดใช้งานระหว่างเดือน (ไทย)
*108*9# เช็คยอดใช้งานระหว่างเดือน (อังกฤษ)
*110# ใจดีให้ยืมเงิน 30฿ (ค่าบริการ 2 บาท)
*111*1*วัน# ใจดีแลกวัน
*111*2*วัน# ใจดีแลกเงิน
*112*เบอร์*จำนวนเงิน# โอนเงิน (ค่าบริการ 2 บาท)
*113*จำนวนวัน30/90/180# ใจดีแจกวัน (ค่าบริการ 3/9/12 บาท)

บริการตอบรับอัตโนมัติ
*1000 เติมเงิน
*1001 เช็คยอด
*1002 ลงทะเบียนซิม
*1003 เลือกโปรโมชั่น
*1004 โปรบริการเสริม
*1006 เช็คยอด vasup
*1008 Happy Go Inter
*1010 ใจดีให้ยืม (ค่าบริการ 2 บาท)
*1013 ใจดีแจกวัน
*1020 Happy บัญชีสะสมสุข
*1021 ใจดีแปลให้ (ค่าใช้จ่ายตามโปรที่ใช้)
*1025 Happy RED card
*119 เสียงเพลงรอสาย Ring For U (คนจ่ายไม่ได้ฟัง คนฟังไม่ได้จ่าย 37 บาท/เดือน)
*799 Happy เพลงฮิตจี๊ดจ๊าด
*1808 จส.100
*77 แจ๋ว (บริการแจ้งหมายเลขที่ไม่ได้รับ)
*7102 ใจดีแจ้งเครือข่าย (บริการแจ้งเครือข่ายขณะโทรออก)
*1802 Happy Voice Mail Box (ค่าโทรตามโปรที่ใช้)
1678 Happy Call Center (ครั้งละ3 บาท)

[ AIS ]

GSM Advance
*911# = เช็คยอดเงินส่วนเกินจากโปรโมชัน,VASและเวลาใช้งานGPRS (ฟรี)
*96# = เช็คยอดค้างชำระ (ฟรี)
*678# = ตรวจสอบโปรโมชันปัจจุบัน (ฟรี)
*545 = ฟังสิทธิพิเศษ (ฟรี)
*545# = เช็คเบอร์โทรของตัวเอง (ฟรี)
* 43# = เปิดรับสายเรียกซ้อน (ฟรี)
*141 = สมัครบริการMiss Call Alert (ฟรี)
*99 = ฟังVoice Mail (ฟรี)
*292*เบอร์1-2-Call*จำนวนเงิน# = เติมเงินให้เบอร์1-2-Call (ครั้งละ 2.14 บาท รวมVATแล้ว/ จำนวนเงิน = 20,50,100,200,300,400,500)
*292# = เช็ควงเงินคงเหลือที่สามารถเติมให้เบอร์1-2-Call (ฟรี)
*515 = สมัครบริการPrivate Number (ฟรี)
*189 = สมัครบริการCall Screening (นาทีละ 3.21 บาท รวมVATแล้ว)
*180 = รับการตั้งค่าGPRS/EDGE (ฟรี)
*900 หรือ *900# = รับWAP Linkเพื่อโหลดโปรแกรมAIS mobile Internet Menu (ฟรี)
*789 = Calling Melody (ครั้งละ 5.35 บาท รวมVATแล้ว)
*855 = M2G:ส่งเพลงให้เพื่อน (นาทีละ 3.21 บาท รวมVATแล้ว)
*555 = mPay (ฟรี)

1-2-Call
*120 หรือ *120*รหัสบัตรเติมเงิน# = เติมเงินให้หมายเลขตัวเอง (ฟรี)
*130 หรือ *130*เบอร์1-2-Call*รหัสบัตรเติมเงิน# = เติมเงินให้หมายเลขอื่นในระบบ1-2-Call (ฟรี)
*121 หรือ *121# = เช็คยอดเงินและจำนวนวันคงเหลือ (ฟรี)
*121*1# = เช็คยอดเงินและวันหมดอายุของโบนัสค่าโทร (ฟรี)
*139# = เช็คยอดคงเหลือแพ็คเกจSMS,MMSและGPRS (ฟรี)
*777# = เช็คโปรโมชันที่ใช้งานอยู่ (ฟรี)
*545# = เช็คเบอร์โทรของตัวเอง (ฟรี)
*140 = บริการโอนเงิน,โอนวันให้หมายเลขอื่นในระบบ1-2-Call (โทรฟรี/ค่าโอนครั้งละ 3 บาท)
*125 หรือ *125*1# = สมัครบริการข้ามแดนอัตโนมัติหรือโรมมิ่ง (ฟรี)
*131*รหัสประเทศหมายเลขโทรศัพท์# = โทรออกเมื่ออยู่ต่างประเทศ
*222หมายเลขปลายทาง = บริการออกให้(หน่อย)นะหรือเก็บเงินปลายทาง - -" (ฟรี)
*43# = เปิดรับสายเรียกซ้อน (ฟรี)
*141 = สมัครบริการMiss Call Alert (ฟรี)
*99 = ฟังVoice Mail (ฟรี)
*515 = สมัครบริการPrivate Number (ฟรี)
*136 = สมัครบริการCall Screening (นาทีละ 3 บาท รวมVATแล้ว)
*180 = รับการตั้งค่าGPRS/EDGE (ฟรี)
*900 หรือ *900# = รับWAP Linkเพื่อโหลดโปรแกรมAIS mobile Internet Menu (ฟรี)
*789 = Calling Melody (ครั้งละ 5 บาท รวมVATแล้ว)
*855 = M2G:ส่งเพลงให้เพื่อน (นาทีละ 3 บาท รวมVATแล้ว)
*555 = mPay (ฟรี) 

สุดยอดคุ้ม โปรแกรมดีๆฟรีๆครับ Avant Browser

ตัวนี้ใช้ดีครับ เป็น version ที่ Run บน USB Drive ก็ได้ เก็บบุ๊คมาร์ค รหัสผ่านต่างๆใว้ได้ใน USB Drive ของเรา

ขอยืมเครื่องใครใช้ก็เสียบได้เลย ไม่ทิ้งคุ้กกี้ไว้ด้วย (เดี๋ยวเค้าหลงป่า อิอิ)

โหลดได้จากนี่ครับ http://dl.filekicker.com/send/file/184227-Z37W/avant.exe

ลองใช้ดูจะติดใจครับ  

สมการที่เป็นจริง ในชีวิต

ROMANCEMATHEMATICS

Smart man + smart woman = romance
ผู้ชายเท่ห์ + ผู้หญิงเก่ง = ความ โรแมนติก

Smart man + dumb woman = affair
ผู้ชายเก่ง + ผู้หญิงโง่ = ความ ใคร่

Dumb man + smart woman = marriage
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงเก่ง = การแต่งงาน

Dumb man + dumb woman = pregnancy
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงโง่ = ตั้ง ท้อง


OFFICE ARITHMETIC

Smart boss + smart employee = profit
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร

Smart boss + dumb employee = production
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผล ผลิต

Dum! b boss + smart employee = promotion
เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อน ตำแหน่ง

Dumb boss + dumb employee = overtime
เจ้านายโง่+ ลูกน้อง โง่ = OT อย่าง เดียว


SHOPPING MATH

A man will pay $2 for a $1 item he needs.
ผู้ชายจ่าย 2 บาท ต่อ ของ 1 ชิ้นที่เขาต้องการ

A woman will pay $1 for items that she doesn't need.
แต่ ผู้หญิง จ่าย 1 บาท ต่อ ของหลายๆชิ้น ที่เธอไม่ต้อง การ


GENERAL EQUATIONS & STATISTICS

A woman worries about the future until she gets a husband.
ผู้หญิงจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตจนกว่าจะ มีสามี

A man never worries about the future until he gets a wife.
แต่ ผู้ชายไม่เคยกังวลเลยเกี่ยวก ับอนาคตเลยจนกระทั่งมีภรรยา

A successful man is one who makes more money than his wife can spend.
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภรรยาใช้

A successful woman is one who can find such a man.
แต่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ สามารถหาสามีได้อย่างคนข้างบน



HAPPINESS

To be happy with a man, you must understand him a lot and love him a little.
การจะมีความสุขกับผู้ชายคนนึง คุณจ ะต้องเข้าใจเค้ามากๆ แต่รักเค้า น้อยๆ

To be happy with a woman, you must love her a lot and not try to understand her at all.
การจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนึง คุณต้องรักเธอมากๆ และไม่ต้องพยายามเข้าใจอะไรในตัวเธอ ทั้งสิ้น


LONGEVITY

Married men live longer than single men do, but married menare a lot more willing to die.
ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีอายุยืนกว่าชายโสด แต่ชายที่แต่งงานแล้วกลับ เต็มใจเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่


PROPENSITY TO CHANGE
A woman marries a man expecting he will change, but he doesn't.
ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายคนนึงและหวัง ว่าจะเปลี่ยน แปลงเค้าได้ แต่ผู้ชายไม่ เปลี่ยน

A man marries a woman expecting that she won't change, and she does.
ส่วน ผู้ชายแต่ง งานกับผู้หญิงและหวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ เปลี่ยน


DISCUSSION TECHNIQUE

A woman has the last word in any argument.
ผู้หญิงมักมี คำพูดสุดท้ายในการโต้เถียง

Anything a man says after that is the beginning of a new argument.
แต่อะไรก็ตามที่ผู้ชายพูดออกมาต่อจากนั้น จะเป็นการเริ่มการโต้เถียง ครั้งใหม่

จริต ๖ ศาสตร์ในการอ่านใจคน

คำว่า "จริต" ในที่นี้หมายถึงสภาวะจิตของคนตามธรรมชาติจากการแบ่งจริตมนุษย์เป็น ๖ ประเภทใหญ่ๆ เรามาดูกันว่าคุณติดในจริตแบบไหนบ้างครับ


แนวคิดเกี่ยวกับประเภทของจริตมนุษย์ในหนังสือเล่มนี้มีรากฐานมาจากคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งผู้ประพันธ์เชื่อกันว่าเป็นพระอรหันต์ชาวลังกา ในคัมภีร์ดังกล่าวได้อธิบายถึงสภาวะจิตหรือนิสัยมนุษย์ว่ามีอยู่ด้วยกัน ๖ ประเภท ได้แก่

1.ราคะจริต คือสภาวะจิตที่หลงติดในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสจนเป็นอารมณ์
2.โทสะจริต หรือสภาวะจิตที่โกรธง่าย ฉุนเฉียวง่าย เพียงพูดผิดสักคำ ได้เห็นดีกัน
3.โมหะจริต หรือจิตที่มักอยู่ในสภาพง่วงเหงาหาวนอนหรือซึมเศร้าเป็นอาจิณ
4.วิตกจริต หรือสภาวะจิตที่กังวล สับสนและวุ่นวายฟุ้งซ่านแทบทุกลมหายใจ
5.ศรัทธาจริต คือสภาวะจิตที่มีปรัชญาหรือหลักการของตัวเองและพยายามผลักดันให้ตัวเองและผู้อื่นบรรลุถึงจุดหมายนั้น
6.พุทธิจริต คือสภาวะจิตที่เน้นการใช้ปัญญาในการไตร่ตรอง คิดหาเหตุหาผลมาแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน รวมทั้ง มีความสนใจ เรื่องการยกระดับและพัฒนาจิตวิญญาณ

ราคะจริต
ลักษณะ บุคลิกดี มีมาด น้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ ติดในความสวย ความงาม ความหอมความไพเราะ ความอร่อย ไม่ชอบคิด แต่ช่างจินตนาการเพ้อฝัน
จุดแข็ง มีความประณีตอ่อนไหว และละเอียดอ่อน ช่างสังเกตุเก็บข้อมูลเก่ง มีบุคลิกหน้าตาเป็นที่ชอบและชื่นชมของทุกคนที่เห็น วาจาไพเราะ เข้าได้กับทุกคน เก่งในการประสานงาน การประชาสัมพันธ์และงานที่ต้องใช้บุคลิกภาพ
จุดอ่อน ไม่มีสมาธิ ทำงานใหญ่ได้ยาก ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่มีความเป็นผู้นำ ขี้เกรงใจคน ขาดหลักการ มุ่งแต่บำรุงบำเรอผัสสะทั้ง 5 ของตัวเอง คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ชอบพูดคำหวานแต่อาจไม่จริง อารมณ์รุนแรงช่างอิจฉา ริษยา ชอบปรุงแต่ง
วิธีแก้ไข้ พิจารณาโทษของจิตที่ขาดสมาธิ ฝึกพลังจิตให้มีสมาธิเข้มแข็ง หาเป้าหมายที่แน่ชัดในชีวิต พิจารณาสิ่งปฏิกูลต่างๆของร่างกายมนุษย์เพื่อลดการติดในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

โทสะจริต
ลักษณะ จิตขุ่นเคือง โกรธง่าย คาดหวังว่าโลกต้องเป็นอย่างที่ตัวเองคิด พูดตรงไปตรงมา ชอบชี้ถูกชี้ผิด เจ้าระเบียบ เคร่งกฎเกณฑ์ แต่งตัวประณีต สะอาดสะอ้าน เดินเร็ว ตรงแน่ว
จุดแข็ง อุทิศตัวทุ่มเทให้กับการงาน มีระเบียบวินัยสูง ตรงเวลา วิเคราะห์เก่ง มองอะไรตรงไปตรงมา มีความจริงใจต่อผู้อื่นสามารถพึ่งพาได้ พูดคำไหนคำนั้น ไม่ค่อยโลภ
จุดอ่อน จิตขุ่นมัว ร้อนรุ่ม ไม่มีความเมตตา ไม่เป็นที่น่าคบค้าสมาคมของคนอื่น และไม่มีบารมี ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างวจีกรรมเป็นประจำ มีโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย
วิธีแก้ไข้ สังเกตดูอารมณ์ตัวเองเป็นประจำ เจริญเมตตาให้มากๆ คิดก่อนพูดนานๆ และพูดทีละคำ ฟังทีละเสียง อย่าไปจริงจังกับโลกมากนัก เปิดใจกว้างรับความคิดใหม่ๆ พิจารณาโทษของความโกรธต่อความเสื่อมโทรมของร่างกาย

โมหะจริต
ลักษณะ ง่วงๆ ซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ ดวงตาดูเศร้าๆ ซึ้งๆ พูดจาเบาๆ นุ่มนวลอ่อนโยน ยิ้มง่าย อารมณ์ ไม่ค่อยเสีย ไม่ค่อยโกรธใคร ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เดินแบบขาดจุดมุ้งหมาย ไร้ความมั่นคง
จุดแข็ง ไม่ฟุ้งซ่าน เข้าใจอะไรได้ง่ายและชัดเจน มีความรู้สึก มักตัดสินใจอะไรได้ถูกต้อง ทำงานเก่ง โดยเฉพาะงานประจำ ไม่ค่อยทุกข์หรือเครียดมากนัก เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่น่าคบ ไม่ทำร้ายใคร
จุดอ่อน ไม่มีความมั่นใจ มองตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงโทษตัวเองเสมอ หมกมุ่นแต่เรื่องตัวเองไม่สนใจคนอื่น ไม่จัดระบบความคิด ทำให้เสมือนไม่มีความรู้ ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ชอบเป็นจุดเด่น สมาธิอ่อนและสั้นเบื่อง่าย อารมณ์อ่อนไหวง่ายใจน้อย
วิธีแก้ไข้ ตั้งเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน ฝึกสมาธิสร้างพลังจิตให้เข้มแข็ง ให้จิตออกจากอารมณ์ โดยจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือเล่นกีฬา แสวงหาความรู้ และต้องจัดระบบความรู้ความคิด สร้างความแปลกใหม่ให้กับชีวิต อย่าทำอะไรซ้ำซาก

วิตกจริต
ลักษณะ พูดเป็นน้ำไหลไฟดับ ความคิดพวยพุ่ง ฟุ้งซ่านอยู่ในโลกความคิด ไม่ใช่โลกความจริง มองโลกในแง่ร้ายว่าคนอื่นจะเอาเปรียบกลั่นแกล้งเรา หน้าจะบึ้ง ไม่ค่อยยิ้ม เจ้ากี้เจ้าการ อัตตาสูงคิดว่าตัวเองเก่ง อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง ผัดวันประกันพรุ่ง
จุดแข็ง เป็นนักคิดระดับเยี่ยมยอด มองอะไรทะลุปรุโปร่งหลายชั้น เป็นนักพูดที่เก่ง จูงใจคน เป็นผู้นำหลายวงการ ละเอียดรอบคอบ เจาะลึกในรายละเอียด เห็นความผิดเล็กความผิดน้อยที่คนอื่นไม่เห็น
จุดอ่อน มองจุดเล็กลืมภาพใหญ่ เปลี่ยนแปลงความคิดตลอดเวลา จุดยืนกลับไปกลับมา ไม่รักษาสัญญา มีแต่ความคิด ไม่มีความรู้สึก ไม่มี วิจารณญาณ ลังแล มักตัดสินใจผิดพลาด มักทะเลาวิวาท ทำร้ายจิตใจ เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีความทุกข์ เพราะเห็นแต่ปัญหา แต่หาทางแก้ไม่ได้
วิธีแก้ไข้ เลือกความคิด อย่าให้ความคิดลากไป ฝึกสมาธิแบบอานาปานัสสติ เพื่อสงบสติ อารมณ์ เลิกอกุศลจิต คลายจากฟุ้งซ่าน สร้างวินัย ต้องสร้างกรอบเวลา ฝึกมองภาพรวม คิดให้ครบวงจร หัดมองโลกในแง่ดี พัฒนาสมองด้านขวา

ศรัทธาจริต
ลักษณะ ยึดมั่นอย่างแรงกล้าในบุคคล หลักการหรือความเชื่อถือและความศรัทธา คิดว่าตัวเองเป็นคนดี น่าศรัทธา ประเสริฐ กว่าคนอื่น เป็นคนจริงจัง พูดมีหลักการ
จุดแข็ง มีพลังจิตสูงและเข้มแข็งพร้อมที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคมไปสู่สภาพที่ดีกว่าเดิม มีพลังขับเคลื่อนมหาศาล มีลักษณะความเป็นผู้นำ
จุดอ่อน หู่เบา ความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล ถูกหลอกได้ง่าย ยิ่งศรัทธามาก ปัญญายิ่งลดน้อยลง จิตใจคับแคบ ไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง ไม่ประนีประนอม มองโลกเป็นขาวและดำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนคิดว่าถูกต้อง สามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่ใช้ความรุ่นแรง
วิธีแก้ไข้ นึกถึงกาลามสูตร ใช้หลักเหตุผลพิจารณาเหนือความเชื่อ ใช้ปัญญานำทาง และใช้ศรัทธาขับเคลื่อน เปิดใจกว้างรับความคิดใหม่ๆ ลดความยึดมั่นในตัวบุคคลหรืออุดมการณ์ ลดความยึดมั่นในตัวกูของกู

พุทธิจริต
ลักษณะ คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล มองเรื่องต่างๆ ตามสภาพความเป็นจริงไม่ปรุงแต่ง พร้อมรับความคิดที่แตกต่างไปจากของตนเอง ใฝ่เรียนรู้ ช่างสังเกตุ มีความเมตตาไม่เอาเปรียบคน หน้าตาผ่องใส ตาเป็นประกาย ไม่ทุกข์
จุดแข็ง สามารถเห็นเหตุเห็นผลได้ชัดเจน และรู้วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง อัตตาต่ำ เปิดใจรับข้อเท็จจริง จิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่จมปลักในอดีต และไม่กังวลในสิ่งที่จะเกิดในอนาคต พัฒนาปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เป็นกัลยาณมิตร
จุดอ่อน มีความเฉื่อยไม่ต้องการพัฒนาจิตวิญญาณ ชีวิตราบรื่นมาตลอด หากต้องเผชิญพลังด้านลบ อาจเอาตัวไม่รอด ไม่มีความเป็นผู้นำ จิตไม่มีพลังพอที่จะดึงดูดคนให้คล้อยตาม
วิธีแก้ไข้ ถามตัวเองว่าพอใจแล้วหรือกับสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน เพิ่มพลังสติสมาธิ พัฒนาจิตใจให้มีพลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้น เพิ่มความเมตา พยายามทำให้ประโยชน์ให้กับสังคมมากขึ้น

(อ่านแล้วชอบมากๆ ครับ เลยแบ่งปันเอามาให้อ่านกันครับ)

ภูเขาสามารถถล่มมาเป็นถนน แม่น้ำสามารถเปลี่ยนทางเดิน
แต่นิสัยใจคอคน ยากแท้ที่จะเปลี่ยน!

ที่มาจากหนังสือ.......จริต ๖ ศาสตร์ในการอ่านใจคน
โดย ดร. อนุสร จันทพันธ์
ดร. บุญชัย โกศลธนากุล 

ความหมายของคำว่า ภรรยาและสามี (FWD mail)

เริ่มกันแบบไทยๆก่อน เราเรียกเมียนะครับ


เมียหลวง
คือ ภรรยาที่เคยดีที่สุดในอดีต แต่กาลเวลาและสิ่งแวดล้อมทำลายความดีของเธอ
จนหมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้น และทิ้งความโหดร้ายไว้ให้เธอต้องรับผลกรรม คือ
ความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น แก่ง่าย ตายยาก พูดมาก กินจุ อ้วนเหมือนหมู ดุเหมือนเสือ

เมียเก็บ
คือ อาหารพิเศษ มีรสชาติแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไป เหมาะที่จะกินเป็นครั้ง
เป็นคราว เพื่อแก้เลี่ยน เป็นสินค้ายอดนิยมและมีราคาแพง เงื่อนไขเยอะ

เมียน้อย
คือ ผู้หญิงที่ดีที่สุด ที่ผู้ชายเพิ่งมาค้นพบภายหลัง

เมียแต่ง
คือ ผู้หญิงที่ทรงคุณค่าและคุณผู้ชายอยากจะประทับรอยรักสุดใจขาดดิ้ น แต่ไม่
สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่านี้

เมียเช่า
คือ ผู้หญิงผิวคล้ำ ขี้ร้อน ใช้เสื้อผ้าน้อยชิ้น สูบบุหรี่กินเหล้าเป็นงานอดิเรก รสนิยม
สูง นิยมบริโภคของนอก มีปริมาณความรักขึ้นลงตามกระแสเงินสด

เมียจ๋า
คือ ผู้หญิงหน้าดุเหมือนเสือ ยืนชูไม้ต้นรักเหมือนเทพีสันติภาพ และมีสามีนั่งคุก
เข่าอยู่กับพื้น ประสานมือเหนือหน้าอกเหมือนไหว้เจ้า เพราะมีประวัติเพิ่งทำการ
ละเมิดข้อห้ามร้ายแรงของภรรยาบังเกิดเกล้า ลักษณะตัวสั่น น้ำลายไหลเล็กน้อย
พูดตะกุกตะกักว่า 'เมียจ๋า' ซึ่งเป็นคำพูดในความหมาย ขออภัย ไถ่โทษ

เมียกู
คือ ผู้หญิงสวย ขาว หุ่นเพรียวผอม อายุน้อย หน้าตาน่ารัก เพราะยังไม่มีการรวม
ตัวของไขมันและตีนกา พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ผู้ชายที่พบเห็นจะเกิดอาการเขื่อน
กั้นน้ำลายพัง ทำให้เอ่อล้นออกมานอกปาก แสดงอาการหึงหวง กีดกันชายอื่นไม่
ให้เข้าใกล้ แสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่บางครั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง

เมียบังเกิดเกล้า
คือ ผู้หญิงที่น่าเบื่อที่สุดในโลก ความรู้น้อย บริหารงานไม่เป็น vision เป็นศูนย์
เผด็จการ ชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ใช้คำพูดหยาบคาย
บุคลิกภาพน่ารังเกียจ เป็นที่ชิงชังของเพื่อนบ้านและผู้ชายทั่วไป โดยเฉพาะสามี
จากคุณสมบัติที่น่าสยดสยองดังกล่าว ทำให้สามีเกลียด ขยะแขยง คลื่นไส้จนไม่
อยากพูดด้วย ไ ม่อยากโต้ตอบ ไม่อยากมีเรื่อง สามีที่มีภรรยาประเภทนี้ จึงใช้คำ
พูดอยู่สองคำ คือ 'ครับ' และ 'ใช่ครับ' และใช้สรรพนามเรียกภรรยาว่า 'แม่' มัก
อธิบายให้เพื่อนฟังว่า เรียกตามลูก แต่เพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าเรียกตามลูกหรือเรียก
ด้วยความเคารพยำเกรง เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง และที่สำคัญ ได้ลบคำว่า 'นอก
ใจ'ออกจากสมองและพจนานุกรมในบ้านเรียบร้อยแล้ว




เพิ่มเติม

ความหมายของคำว่า เมีย (WIFE)

W = without = ปราศจาก

I = Information = แจ้งให้ทราบ

F = Fighting = ต่อสู้ (ทะเลาะ)

E = Every Day = ทุก ๆ วัน

รวมความก็คือ

Without Information Fighting Every day

แปลเป็นไทยก็คือ

หาเรื่อง ทะเลาะได้ ทุก ๆ วัน โดย ปราศจาก การ แจ้งให้ทราบล่วงหน้า





ในเมื่อทราบกันแล้วว่าความหมายของภรรยา

ก็มาฝั่งสามี กันบ้าง
สามี ความหมายของคำว่า ผัว (HUSBAND)
H Has มี
U Unceasingly ไม่มีหยุดหย่อน
S Shame ละอาย
B But แต่
A Annoyance ความน่ารำคาญใจ
N No ไม่
D Dispute โต้เถี ยง ทะเลาะ

รวมความก็คือ
Hate Dispute But Seek Unceasingly Annoyance; No Shames
แปลเป็นไทยก็คือ

เกลียดการทะเละแต่ชอบหาเรื่องรำคาญใจมาให้ไม่หยุดหย่อนและไม่มีความละอายใจ






อันนี้แถม

เมียคนอื่น = หญิง ขาว สวย หมวย X มองยังไงก็ไม่เบื่อ

มองเมื่อไรก็น่ารัก เห็นแล้วอยากเป็นเจ้าของ

แต่ก็หมดสิทธิ์ เพราะแฟนมันมีปืน !! 

พระราชดำรัส ข้อคิดในการใช้ชีวิต

1.อย่าทำลายความหวังของใครเพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

2.เมื่อมีคนเล่าว่าตัวเขามีส่วนในเหตุการณ์สำคัญอะไรก็ตาม เราไม่ต้องไปคุยทับ ปล่อยเขาฟุ้งไปตามสบาย
3.รู้จักฟังให้ดี โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆ เท่านั้น
4.หัดทำสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นให้เขารับรู้
5.ทำตัวให้สบาย อย่าคิดมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแล้ว อะไร ๆ มันก็ไม่ได้สำคัญอย่างที่คิดใว้ทีแรกหรอก
6.ใช้เวลาน้อยในการคิดว่า ใคร เป็นคนถูก แต่ใช้เวลาให้มากในการคิดว่า อะไร คือสิ่งที่ถูก
7.เราไม่ได้ต่อสู้กับ คนโหดร้าย แต่เราสู้กับ ความโหดร้าย ในตัวคน
8.คิดให้รอบคอบ ก่อนจะให้เพื่อนต้องมีภาระในการรักษาความลับ
9.เมื่อมีใครสวมกอดคุณ ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน
10.เป็นคนถ่อมตน คนเขาทำอะไรต่ออะไรสำเร็จมามากมายแล้วตั้งแต่เรายังไม่เกิด
11.ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเพียงใด...สุขุมเยือกเย็นเข้าใว้
12.อย่าให้ปัญหาของเราทำให้คนอื่นเขาเบื่อหน่าย ถ้ามีใครมาถามเราว่า "เป็นยังไงบ้างตอนนี้" ก็บอกเขาไปเลยว่า "สบายมาก"
13.อย่าพูดว่า มีเวลาไม่พอ เพราะเวลาที่คุณมี มันก็วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่า ๆ กับที่
หลุย ปาสเตอร์,ไมเคิลแอนเจลโล,แม่ชีเทราซา,ลีโอนาร์โด ดาวินชี่,ทอมัส เจฟเฟอร์สัน หรือ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ เขามีนั่นเอง
14.เป็นคนใจกล้าเด็ดเดี่ยว เมื่อเหลียวกับไปดูอดีต เราจะเสียใจ ในสิ่งที่ทำแล้วไม่ได้ทำ มากกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว
15.ประเมินตนเองด้วยมาตรฐานของตัวเอง ไม่ใช่ด้วยมาตรฐานของผู้อื่น
16.จริงจังและเคี่ยวเข็ญต่อตนเอง แต่อ่อนโยนและผ่อนปรนต่อผู้อื่น
17.คงใว้ซึ่งความเป็นคนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น
18.ให้ความนับถือแก่ทุกคนที่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพไม่ว่างานที่เขาทำนั้น จะกระจอกงอกง่ายสักปานใด
19.คำนึงถึงการมีชีวิตให้"กว้างขวาง"มากกว่าการมีชีวิตให้ "ยืนยาว"

ซื้อของหมื่นกว่า แต่ใช้จริงๆกี่พัน

ก็ขอหยิบยกตัวอย่างของสาวๆบางคนที่ผมรู้จักก็แล้วกันนะครับ

ซื้อมือถือโนเกีย BB Iphone รุ่นล่าสุดหมื่นกว่าบาท มีความสามารถสารพัดแต่ว่า เธอใช้ไม่เป็นครับ
ใช้งานจริงๆก็โทรเข้าโทรออก โหลดเพลง เล่นเกมส์ติงต๊องไป ถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ
สรุปว่าใช้งานเท่าๆกับเครื่องราคาสี่ห้าพันจะทำได้่ ก็แค่นั้นเองครับ

ลูกเล่นเก็บข้อมูลส่วนตัว (PDA function) ไม่ได้ใช้ค่ะ
เช็คอีเมล ไม่ได้ใช้ค่ะ
ต่ออินเตอร์เน็ท ดูเว็ปได้ ไม่ได้ใช้ค่ะ

ง่า แล้วซื้อมาทำไมล่ะน๊องงงง

ก็มันสวย หนูชอบ

ป๊าด คนใกล้จะแก่แบบผมก็เข้าใจยากล่ะครับแบบนี้
แนะนำว่าดูไว้เลยครับตอนมันออกมาใหม่ๆ ชอบจังรุ่นนี้ รอไปแปดเดือน ลดราคาลงมาค่อยซื้อครับ

นี่ก็เห็นลูกน้องบางคนซื้อรุ่นดูทีวีได้มาอีก น้องอยู่ระยองมันจะรับทีวีได้กี่ช่องล่ะคร๊าบ เฮ้อ 

นิยามของความคุ้ม

สำหรับตัวของผมเองแล้วขอตั้งนิยามคำว่า"คุ้ม"เอาไว้ว่า ไม่เกี่ยวกับราคาสูงหรือต่ำ แต่คุณภาพดีเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป
เพราะว่าแพงหมายถึงจ่ายมากแต่ได้น้อย และอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่ต้องการเสมอไป
และถูกหมายถึงจ่ายน้อยแต่ได้มาก ซึ่งน่าจะดี แต่อาจไม่ดีเท่าที่ต้องการก็ได้
สรุปแล้วผมชอบความคุ้ม จ่ายมากก็ได้มาก จะเรียกว่าถูกหรือแพงก็ไม่ได้

ตัวผมนั้นจัดตัวเองเอาเอง ว่าเป็นคนชอบความคุ้มค่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีคำไหนที่ตรงกับความชอบแบบนี้ เปิดหาดูคำใกล้เคียงในพจนานุกรม ก็มีคำแปลมาแบบนี้

มัธยัสถ์ ก. ใช้จ่ายอย่างประหยัด. (ส. มธฺยสฺถ ว่า ปานกลาง, ตั้งอยู่ในท่ามกลาง)
ประหยัด ก. ยับยั้ง, ระมัดระวัง, ใช้จ่ายแต่พอควรแก่ฐานะ.

ก็นับว่าใกล้เคียงจริงคือใช้จ่ายแบบระมัดระวังให้เพียงพอกับฐานะ เดินสายกลาง แต่ที่จริงบางอย่างก็จ่ายเยอะ ขอให้มันดีเยอะๆก็แล้วกัน ดังนั้นจึงคิดว่าคำว่าคุ้มนี้เหมาะกับผมที่สุดแล้ว

แต่เอาเข้าจริงแล้วมันคือความสันโดษ(ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่ป่า หรืออยู่คนเดียวนะ) ซึ่งก็คือการพอใจในสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ ไม่ดิ้นรนตะเกียกตะกายอะไรมาก  แนวๆพอเพียงน่ะครับ

ซื้ออย่างไรให้คุ้ม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมขอยกคำคมของฝรั่งมาสักนิด เพื่อนๆส่งมาให้ โดนใจมากๆ


ผู้ชายยอมจ่ายตั้งสองร้อยพื่อของที่เค้าต้องการแค่ชิ้นเดียว
แต่ผู้หญิงนั้นจ่ายแค่ร้อยเดียวกับของหลายๆชิ้น ที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ (คือฝรั่งกัดสาวๆว่าชอบช็อปของถูก)

สำหรับเรื่องแบบนี้ผมคิดว่าก่อนจะซื้ออะไรต้องคิดเยอะๆก่อนว่า

1. เราต้องการมันจริงๆไหม (ซื้อด้วยเหตุผล ไม่ใช่แค่อยากได้)
2. มันมีสินค้าคล้ายๆกันให้เลือกไหม จะได้เปรียบเทียบกันไง ของบางอย่างดี แต่ยี่ห้อไม่ดัง จะคุ้มมากๆ
3. ซื้อราคาแพงแต่้ใช้บ่อยๆทนๆ ใช้ได้นาน ดีกว่า ซื้อถูกแต่แป๊ปเดียวพังแล้ว
4. สินค้าที่เป็นแฟชั่น ถ้าเราไม่ตามกระแส จะได้ของดีๆถูกๆคุ้มๆ
5. อย่าได้เอายี่ห้อหรือราคาสินค้ามากำหนดสเป็คในการซื้อ อย่าคิดว่ายี่ห้อหรือของแพงทำให้เราดูดี

ก็เป็นแนวทางการซื้อของในแบบของผมนะครับ  

วิธีเลือกคนให้ตรงกับงาน

อยากรู้ว่าพนักงานคุณเหมาะกับตำแหน่งใดกันแน่ ลองทดสอบดังนี้


1. วางอิฐ 400 ก้อนไว้ในห้อง

2. พาพนักงานเข้าไปในห้องๆ นั้น แล้วปิดประตูและหน้าต่าง

3. ปล่อยไว้อย่างนั้น 6 ชั่วโมง

4. ดูผลตามด้านล่าง:






* ถ้านั่งนับอิฐยังไม่เสร็จ ให้เอาไปไว้ฝ่ายบัญชี

* ถ้านับอิฐเสร็จและกำลังนับซ้ำ ให้เอาไปไว้ฝ่ายตรวจสอบ

* ถ้าทำก่ออิฐรกเต็มไปหมด ให้เอาไปไว้ฝ่ายวิศวกรรม

* ถ้าเรียงอิฐโดยวางแปลกๆ ดูไม่รู้เรื่อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายวางแผน

* ถ้ากำลังเอาอิฐเขวี้ยงกัน ให้เอาไปไว้ฝ่ายปฏิบัติการ

* ถ้ากำลังหลับ ให้เอาไปไว้ฝ่ายรักษาความปลอดภัย

* ถ้าทำอิฐพัง หรือแตก ให้เอาไปไว้ฝ่ายสารสนเทศ

* ถ้านั่งขี้เกียจ ไม่ทำอะไร ให้เอาไปไว้ฝ่าย Hr

* ถ้าบอกว่ากำลังคิดถึงวิธีการเรียงใหม่ๆ และต้องการอิฐเพิ่ม แต่อิฐยังกองอยู่แบบเดิม ให้เอาไปไว้
ฝ่ายขาย

* ถ้าคิดแต่จะออกไปนอกห้อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายมาเกตติ้ง

* ถ้าเอาแต่เหม่อลอยออกไปนอกห้อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายวางแผนกลยุทธ


* ถ้าเอาแต่คุยกัน แต่อิฐไม่ขยับเลยสักก้อน ก็ให้แสดงความยินดีกับ(พวก)เขา เราค้นพบ(เหล่า)ผู้
บริหารแล้ว ไชโย!

Cookiecompany เรื่องของคนมีบาดแผลในสังคมอินเตอร์เน็ท

Cookiecompany เรื่องของคนมีบาดแผล
Posted by kittinunn , ผู้อ่าน : 505 , 15:37:39 น. http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2009/07/28/entry-1


ใน โลกแห่งความจริง คงมีคนเฉพาะกลุ่มที่รู้จักชายหนุ่มหน้าตี๋วัย 27 ปีที่ชื่อ “โอ๋” หรือ “ชัยวัฒน์ ฉันทสกุลเดช” ซึ่งเป็นนักวิจารณ์มือถือชื่อดังคนหนึ่งที่โลดแล่นไปตามนิตยสารมือถือ และอุปกรณ์ไอที มาตั้งแต่ที่เขาเรียนหนังสืออยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

แต่สำหรับในโลกอินเตอร์เน็ต ชื่อของ cookiecompany ซึ่งเป็นที่รู้จักในห้องมาบุญครอง พันทิปด็อทคอม ในฐานะที่เขามักจะเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์อุปกรณ์มือถือ ซึ่งในช่วงนั้นหลายคนก็คงที่จะได้เห็นผลงานผ่านทางกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปพอ สมควร

เรื่องโด่งดังที่สุด เท่าที่เคยได้สัมผัสตัวตนผ่านทางหน้าจออินเตอร์เน็ตก็คือ การที่เขาออกมาแฉถึงเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ขายในศูนย์การค้ามาบุญครอง ว่ามีบางร้านจำหน่ายเครื่องที่ผ่านการดัดแปลง ผลจากการที่เขาออกมาแฉเป็นที่สร้างชื่อเสียง จนกระทั่งถูกทำร้ายร่างกายจากผู้เสียผลประโยชน์ในที่สุด

สารภาพตาม ตรงว่า นานมาแล้วในช่วงที่ผมสิงสถิตอยู่ที่ห้องเฉลิมไทย และร่วมกับเพื่อนที่ชื่อปีเตอร์จัดกิจกรรมช่วยเหลือหุ่นละครเล็กโจ หลุยส์ ผมเคยเห็นคุณโอ๋ พร้อมกับเพื่อนอีก 4-5 คนเข้าร่วมชมการแสดง แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก กระทั่งมีโอกาสชื่นชมเขาผ่านตัวอักษร ในช่วงที่เขาแฉร้านมือถือนี่แหละ

แต่จากนั้นเมื่อมีเรื่องการเมือง เข้ามาในพันทิป จนถูกแบนสมาชิกตลอดชีพ (พร้อมกับบล็อกที่เคยเขียนก็ถูกทางพันทิปปิดไปโดยปริยาย) แน่นอนว่าก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสังคมของพันทิปอีกจนถึงตอนนี้ พร้อมกับเพื่อนสมาชิกที่เคยพูดคุยผ่านตัวอักษร และทำกิจกรรมร่วมกันหลายร้อยคน โดยหนึ่งในนั้นก็คือ cookiecompany

ช่วง นั้นชีวิตจมอยู่กับเรื่องการเมือง กระทั่งไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เวลาหยิบจับใบปลิวโฆษณาเครื่องแล็ปท็อป เมื่อได้เห็นรูปพร้อมคำพูดที่วิจารณ์ผลิตภัณฑ์ หรือเวลาหยิบจับนิตยสารไอทีแล้วเห็นชื่อเขาเป็นหนึ่งในกองบรรณาธิการ ก็นึกขึ้นได้ทันทีว่า “นี่พี่คุ้กกี้นี่นา...”

กระทู้ในเว็บบอร์ด เสรีไทย มีสมาชิกท่านหนึ่งได้โพสต์ลิงค์บทความชิ้นหนึ่ง ที่ว่าด้วยการจับโกหกบนโลกอินเตอร์เน็ต มีอยู่หลายกรณีทั้งเรื่องการจับโกหกผู้กำกับสาวรายหนึ่ง ที่อ้างว่าภาพยนตร์ของเขาได้รับรางวัลเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งก็มีพันทิปนี่แหละที่ออกมากระชากหน้ากาก

แต่ที่ตกใจก็คือ กรณีที่คุณโอ๋ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จากการที่เขาได้รับรางวัลในกิจกรรมโหวตรายการหนึ่ง แล้วในช่วงกลางคืนเขาได้ไปวิ่งออกกำลังกาย แถว รอบทะเลสาบคาวากุจิในช่วงกลางคืน เกิดหลงทางกลับโรงแรมไม่ถูก และบรรยากาศน่ากลัวมาก จึงโทรศัพท์ไปหาคอลล์เซ็นเตอร์ของมือถือค่ายหนึ่ง

นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา ประจำเดือนกรกฎาคม 2552 บทความที่ชื่อว่า “สายลับออนไลน์...จับคนโกหก” โดย ดร.ภิเษก ชัยนิรันดร์ ผมขออนุญาตนำเนื้อหาที่กล่าวถึงคุณโอ๋ดังต่อไปนี้

”กรณีที่สาม

เป็น กรณีที่ผมคิดว่าเป็นเรื่อง การใช้บล็อกเกอร์เพื่อสร้างเรื่องราวในเชิงการตลาดแบบแอบแฝงที่เรียกว่า Advertorial Ad แบบผิดๆ จนเกิดเรื่องเกิดราวกระหึ่มหน้า "มาบุญครอง" ของ www.pantip.com ทำให้เกิดการสูญเสียศรัทธาต่อบล็อกเกอร์คนนั้นอย่างที่เจ้าตัวคงไม่ได้คิด ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตนเอง

บล็อกเกอร์รายนั้นมีนามแฝง ว่า cookiecompany ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงมากในการทำบทวิจารณ์โทรศัพท์มือถือ สร้างรายได้ให้เขาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา จนมีแฟนคลับกลุ่มใหญ่ที่ใช้เนื้อหาบทความในบล็อกของเขาเพื่อใช้เป็นข้อมูลใน การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ cookiecompany ได้โพสต์กระทู้หัวข้อ "เกือบทิ้งชีวิตไว้ที่ป่าริมทะเลสาบข้างภูเขาฟูจิเมื่อคืน... ตีหนึ่ง กับความช่วยเหลือของคุณอมราภรณ์ DTAC 1678" ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรื่องราวสรุปได้ว่า cookiecompany ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณภูเขาฟูจิ จากนั้นเขาก็ได้ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งในช่วงสี่ทุ่มเศษๆ แล้วเกิดการหลงป่าบริเวณนั้นไม่สามารถที่จะกลับมายังโรงแรมได้ ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องราวของการโทรศัพท์มือถือเพื่อทำให้ตนเองรอดจากการหลง ป่าครั้งนี้ โดยการโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ซึ่งปลายสายเป็นพนักงาน Call Center ชื่อว่า อมราภรณ์ จากนั้นทางอมราภรณ์ก็ได้สอบถามถึงชื่อโรงแรมและจะติดต่อกับทางโรงแรมให้ จากนั้น cookiecompany ได้เดินต่อมาเรื่อยจนกระทั่งเจอสี่แยกแห่งหนึ่ง แล้วเขาก็ถ่ายรูปนี้ส่งกลับมาให้ทาง Call Center เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทาง Call Center ก็พยายามช่วยเหลือโดยโทรไปหาไกด์ของการเดินทางครั้งนี้และจากนั้น cookie company ก็รอการช่วยเหลือจนเกือบถึงตีสาม จนกระทั่งไกด์มาพบและช่วยเหลือ cookiecompany จากการหลงป่าครั้งนี้

เรื่องราวนี้ของ cookiecompany พยายามเน้นถึงการให้บริการของ Call Center ของผู้ให้บริการรายนี้ พร้อมเน้นเนื้อหาในเชิงลึกลับ จนดูเหมือนเรื่องราวเป็นเรื่องแต่งมากกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง อีกทั้งมีกระทำการหลายๆ อย่างที่ดูเหมือนว่า cookiecompany พยายามให้คนเข้ามาอ่านกระทู้นี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนว่าให้ผู้อ่านพยายามช่วยกดกระทู้โหวต การพยายามโพสต์กระทู้ในหลายๆ หน้าของ www.pantip.com ซึ่งนอกเหนือจากหน้ามาบุญครองแล้ว จะไปโพสต์ที่หน้าหว้าก้อและโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงพยายามแนะนำเนื้อหาของกระทู้นี้ผ่านทางระบบหลังไมค์ เพื่อกระจายข่าวไปยังสมาชิกรายอื่นๆ

เรียกว่าทำแทบทุกวิธีเพื่อให้คน เข้า มาอ่านเนื้อหาที่โพสต์มากๆ ซึ่งวิธีการนี้ก็ส่อพิรุธบางประการแล้วว่า ทำไมถึงต้องพยายามขนาดนี้ หากเป็นเพียงกระทู้ธรรมดากระทู้หนึ่ง

เรื่อง ราวมาเข้มข้นทะลุจุดแตกเมื่อ ว่านน้ำ สมาชิกคนหนึ่งของห้องมาบุญครอง ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นและทำการตรวจสอบ เนื้อหาของ cookiecompany โดยอาศัยหลักฐานจากภาพของ GPS ที่มาจากโทรศัพท์มือถือของ cookiecompany พบว่ามันไม่ใช่เส้นทางในป่า แต่กลับเป็นเส้นทางของถนนเลียบหาดในเมือง จึงสามารถสรุปได้ว่าการหลงป่าฟูจิครั้งนี้ก็เป็นเพียงการกล่าวเท็จเท่านั้น

ผลการพิสูจน์ของคุณว่านน้ำครั้งนี้ ทำให้ชีวิตของคุณ cookiecompany เรียกได้ว่าไม่มีทางเหมือนเดิม

จา กบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามจำนวนมาก กลับเป็นว่าแฟนคลับเข้าร่วมประณามการกล่าวเท็จครั้งนี้ และก็ลามไปถึงความน่าเชื่อถือของบทความในอดีตว่าที่วิพากษ์วิจารณ์โทรศัพท์ มือถือไปนั้น เขียนโดยสุจริตใจหรือมีอามิสสินจ้างใดที่ทำให้ได้เขียนถึงหรือไม่

แน่ ละครับ บางครั้งดูกลายเป็นการมองโลกในแง่ร้ายและเป็นการเหยียบซ้ำ cookiecompany แต่นั่นคือผลที่เกิดขึ้นคือชื่อเสียงที่สะสมมานาน ถูกทำลายป่นปี้ไม่มีเหลือ จนหลายคนใช้คำว่า cookie-company แทนคำว่าโกหก เหมือนกรณีของสมพงษ์ เลือดทหาร หากคุณผู้อ่านยังพอจะจำกันได้”

คนที่เล่นพันทิปอยู่บ่อยๆ คงไม่มีใครไม่รู้จักคนที่ชื่อ “ว่านน้ำ” สมาชิกเก่าแก่ประจำพันทิปแน่ๆ

ผม ตามอ่านกระทู้ต้นเรื่องเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ก็มีกระทู้สรุปเหตุการณ์ออกมา ซึ่งในกระทู้เดียวกันนี้ยังมีการออกมากล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลของ สมาชิกผู้นี้อีกเป็นสิบเรื่อง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับการวิจารณ์มือถือ เรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับผู้หญิง แล้วก็เรื่องความไม่ชอบมาพากลในกิจกรรมการกุศล

อ่านกระทู้นี้แล้วทำเอาออกอาการ “ตาแฉะ” กับสามร้อยกว่าความเห็นที่อยู่ในนั้น

ด้วย ความที่ผมเพิ่งรู้ความจริงในวันนี้ เห็นว่าสมาชิกพันทิปต่างช่วยกัน “กระทืบซ้ำ” กันไปเยอะแล้ว ด้วยความสงสารในฐานะที่เคยเห็นหน้าและรู้จักในโลกของตัวอักษร จึงไม่ขอประณามใดๆ ต่อไปในบล็อกแห่งนี้

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องนำไปขบคิดก็คือ “บาดแผล” ที่เกิดจากการกระทำด้วยตัวของเขาเอง

ผม เชื่อว่าทุกคนย่อมมี “บาดแผล” ในใจด้วยกันทั้งนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริงเราก็เคยทำผิดพลาดในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น นับประสาอะไรกับโลกเสมือนจริง ที่แม้บางคนจะไม่เปิดเผยตัว แต่ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลขึ้นมา ด้วยความที่โลกอินเตอร์เน็ตเป็นโลกที่เลือกได้ว่าจะเปิดเผยหรือปิดบังตัวตน

แน่ นอนว่าเมื่อพบเห็นเพียงแค่ตัวอักษร ไม่รู้หน้า ไม่รู้ใจ อะไรๆ ที่อ่อนโยนเมื่อพบหน้า มาถึงเพียงแค่ตัวอักษรก็กลับเป็น “แรง” ขึ้นมาได้

แต่ คงเป็นเพราะสังคมไทยที่มีเรื่องของความเกรงใจ และไม่อยากให้ “ความไม่โปร่งใส” กลายเป็นอุปสรรคในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม มีหลายกรณีมักจะจบลงด้วยการ “ไม่เอาเรื่อง” ให้เป็นคดีความ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องมาเกี่ยวพันกับปัญหา ทั้งๆ ที่ผู้เสียหายสามารถที่จะเรียกร้องสิทธิ์ในฐานะที่เขาเคยมีส่วนร่วม แต่ก็ต้องมองข้ามกันไปด้วยความเกรงใจ

การที่คุณโอ๋เลือกที่จะปิดตัว เองด้วยการหายหน้าหายตาไปจากสังคมออนไลน์ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปี ผมคิดว่าในใจคุณโอ๋คงจะรู้สึกเจ็บปวด และการเอ่ยคำขอโทษใดๆ ออกมาในวันนี้คงเป็นเรื่องที่สายเกินไป เพราะวันนี้ภาพความทรงจำดีๆ ในตัวเขากลับต้องพังทลายลงด้วยบาดแผลจากจุดเล็กๆ กลายเป็นมะเร็งร้ายที่ลุกลามถึงชีวิตของเขา

และการเอ่ยคำขอโทษย่อม หมายถึง “ศักดิ์ศรี” ที่เขาอยากจะรักษาไว้ย่อมพังทลายลงไป ซึ่งหลักคิดเช่นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของ “อัตตา” หรืออีโก้ที่มีในตัวเองทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่อีกมุมหนึ่งสังคมพร้อมที่จะให้อภัยกับคนที่เคยทำตัวผิดพลาดไปแล้ว เพียงแต่ว่าเขาอาจจะหันมาองเรากันในแบบที่ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เขาเคยเป็น ก็เป็นได้

ผมบอกได้คำเดียวว่า "เสียดาย" จริงๆ ครับ

############################################################################

Copy มาให้"อ่าน"ครับ

เครดิตคุณla-la-bellครับ

คดี 1 เครื่องทดลอง
ตอนนั้นเด็กหนุ่มเริ่มมีชื่อเสียงในการ review มือถือบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ได้โด่งดังขนาดนี้
มีพีท่านหนึ่งใน mbk ได้เอาเครื่อง test / prototype ซึ่งเป็นเครื่องที่ยังไม่สมบูรณ์
มาลองใช้เพื่อที่จะได้ฟังว่ามีคำแนะนำเกี่ยวกับข้อบกพร่องอันใดบ้าง

ปรากฏว่าทางเด็กหนุ่มเมื่อทดลองใช้ แล้วก็เอาเครื่อง prototype ไปประกาศขาย
ทั้งๆที่ function ยังไม่สมบูรณ์ และเครื่องจริงยังไม่มีในตลาด
ข่าวรั่ว ทำให้โทรศัพท์รุ่นนั้นต้องออกก่อนกำหนด

ผลก็คือ
พี่ท่านนั้นต้องออกจากบริษัท (โดนไล่ออกหรือลาออก มะแน่ใจ)
รุ่นนั้นแทนที่จะเป็นรุ่นสุดยอด กลับเป็นรุ่นดองขายไม่ค่อยออกแทน

(แต่บางข่าวก็เหมือนได้ยินว่า มีการเอามือถือไปให้ดูในมีตติ้ง
แล้วมือถือนั้นก็หายไป
แล้วข่าวก็รั่ว ไปในตลาด วันรุ่งขึ้น เลยต้องทำให้มือถือออกก่อนกำหนด)

ป. ล. ได้ยินว่าหนุ่มคนนั้นเอาเครื่องเทสต์ มาประกาศขายเรื่อยๆ แต่เครื่องเทสต์ส่วนมาก function ไม่สมบูรณ์ ไม่มีประกัน ถ้าคนที่ซื้อรับได้ก็โอเคนะ แต่เห็นมีบางท่านบอกว่า เพื่อนซื้อเครื่องเทสต์จากเด็กหนุ่มไปแล้วเครื่องมันเอ๋อ พยายามติดต่อเด็กหนุ่มก็ปิดโทรศัพท์หนีหายจ้อย
---
แก้ เนื่องจาก ไม่รู้ว่าพี่คนนั้นลาออกหรือไล่ออกน่ะค่ะ

----------------------------------

คดี 2 ยำตีน
เด็กหนุ่มคนนั้นใฝ่ฝันความรู้เกี่ยวกับมือถือ
ได้เช่าพื้นที่ขายมือถือที่มาบุญครอง ชั้น 4
ได้วิชาความรู้ในการขาย และดัดแปลงเครื่องมากมาย
แต่ท้ายทีสุด ก็หักหลังคนที่เคยให้วิชา
มีคอลัมพ์ แฉ ด้านมือ มาบุญครอง ว่าทุกเครื่องยำ (เอ็งก็เคยยำมาก่อนแหละ)
ร่วมกับค่ายมือถือค่ายหนึ่ง
ได้ออกหนังสือพิมพ์ ทีวี และไปบรรยายที่อื่น
มีวันหนึ่ง ได้ไป mbk ชึ้น 4
เจอพี่ๆคนคุ้นเคย ถามกันว่า ทำไมไปให้สัมภาษณ์แบบนี้ . . . .
ผล . . . โดนยำตีน รุมสกรัมเล็กน้อย

พอเด็กหนุ่มคนนั้นออกมาได้ ก็แจ้งกับค่ายมือถือ ผล . . . ได้รักษาฟรี

ผลปรากฏว่า เด็กหนุ่มคนนั้นได้เป็นฮีโร่ ที่เจ็บเพราะแฉด้านมือของวงการ

---------------------------------

คดี 4 หักซิม

เด็กหนุ่มคนนั้น ซื้อซิม เป็นเลขสวยมาเป็นซิมเติมเงิน
ปรากฏว่าซิมนั้น ไม่สามารถจดทะเบียนได้
(เนื่องด้วยสาเหตุ... ซิมนั้นเป็นซิมเติมเงินที่มีชื่อจดทะเบียนยังเป็นชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของอยู่
ถ้าไม่มีเอกสารโอนสิทธิ์จากเจ้าของเดิมก็จำไม่ได้)

เพียรพยายาม แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ call center ของผู้ให้บริการคนนั้นช่วยต่างๆนานา ซึ่งโดยนโยบายก็ทำไม่ได้
ดังนั้น เด็กหนุ่มคนนั้น จึง หักซิมโชว์ ถ่ายรูปลงกระทู้

และ ก็มีกลุ่มสมาชิก ได้กลิ่นตุๆ ที่จับผิด รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของคดีหักซิม
มีการปะฉะดะ กันหน้ากระทู้
เหตุการณ์ปะทะรุนแรงขึ้น จนพันทิปต้องมาระงับเหตุ ด้วยการยึดอมยิ้ม 9 อัน
และเมื่อเคลียร์กันได้ ก็ได้อมยิ้มคืนกันทุกคน
เด็กหนุ่มคนนั้นเอาเหตุการณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามโดนยึดอมยิ้ม มาเป็นข้อได้เปรียบตัวเอง
เห็นไหมว่าเขาถูก พันทิปยังเข้าข้างเด็กหนุ่ม ยึดอมยิ้มฝ่ายตรงข้ามเลย

แถม มีการไปเขียนไว้ ว่านัดไปโรงพักกันแต่กลุ่ม 5กุมาร (จริงๆมี 9 อมยิ้ม) วันที่ไปโรงพัก ไม่เห็นมีใครไปเคลียร์ที่โรงพักเลย (อ่านแล้วเราตีความว่า กลุ่มนี้ไม่แน่จริง)
(แต่หนึ่งในกลุ่ม 5 กุมารมีเขียนไว้ข้างล่าง คห. 170 แล้วว่า ... ตัวเด็กหนุ่มกับกลุ่มที่ปะทะกันตอนนั้น ไม่เคยนัดไปโรงพักเลย)

(ความเห็นส่วนตัว - นอกจากจะเก่งเรื่องสร้าง creditให้ตัวเอง ยัง discreditฝ่ายตรงข้ามได้แบบเนียนๆ)

ผล . . . มีกลุ่มหนึ่งได้ฉายาว่า 5 กุมาร และโดนมาจิกกัดเรื่อยๆ

--------------------------------

คดี 5 x-ray mobile

เด็กหนุ่มคนนั้น review มือถือ จนเป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากในเวป
เด็กหน่มเลยได้ก่อตั้งเวปๆ หนึ่งขึ้นมา ชื่อ x ray mobile เวปไซดสำหรับมือถือโดยเฉพาะ
แล้ววันนึงเด็กหนุ่มก็มาประกาศว่า ขอบริจาคเงินเป็นค่าเวปหน่อย
คนบริจาคจะเป็นสมาชิก VIP และได้ที่ห้อยมือถือเป็นของตอบแทน

มีคนบางส่วนส่งเงินไปบริจาค
แต่ไม่มีการส่งของพรีเมียร์มมา (อ้าว เงินไปแต่ของไม่มา)
พอทวงถาม ก็ เฉยๆ

(มีการสังเกตว่า ช่วงนั้นเด็กหนุ่มดูจะไฮโซขึ้น มีถ่ายรูป กินข้าวร้านดูหรูหราขึ้นนะ)

ผล . . . ในที่สุด เวป xraymobile ก็ปิดตัวลงจนได้ คนที่บริจาคก็ไม่เคยได้ของ อะไรตามที่สัญญิงสัญญาไว้

--------------------------

คดี 6 หลอกสาว ??

จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวกับ mbk เท่าไหร่

แต่ว่าออกจะเขียนหนังสือดี เป็นผุ้ชายอบอุ่นขนาดนี้
มีเหรอ ที่สาวๆ จะไม่เคลิบเคลิ้ม
แต่ . . . มีเพื่อนของสาวคนหนึ่ง
ไม่ปลื้ม อย่างแรง เพราะรู้สึกว่า เพื่อนเธอโดนหลอกใช้
อ่านได้ที่

http://www.geocities.com/lalabellja/cookies1.htm
---

ป.ล. เนื่องจากเวป geocities มักจะเดี้ยงบ่อยๆ
ให้ไปอ่านที่คห. 98 แทน หากกดแล้วมันไม่ขึ้น

----------------------------

คดี 7 iPhone VIP

ก็ เป็นตัวอย่าง ที่หนุ่มคนนั้น เก่งในเรื่องสร้างภาพ เอาผลประโยชนเข้าตัวได้เป็นอย่างดี

ในงานที่ทาง trueจะเปิดตัว iphone เด็กหนุ่มที่เป็น กูรู ของวงการมือถือ จะไม่ได้ไปในงานเปิดตัวได้กะไร
แต่ในเมื่อตัวเองซบอกเชียร์ค่ายหนึ่งอยู่ อยู่ๆ true จะมาเชิญให้ไปงานได้ไง
เด็กหนุ่ม เลยไปร่วมงานเปิดตัว iphone โดยไปลงทะเบียนหน้างานในฐานะ press (ของสำนักไหน ก็ไม่ทราบ)
แต่ เนื่องจากเด็กหนุ่มไปถึงงานช้า ป้ายpressหมด . . . ทางผู้จัดงานเลยต้องเอาป้าย VIP มาติดให้แทนป้าย press เพื่อทึ่จะให้เด็กหนุ่มเข้าร่วมงานได้

ผล.. เด็กหนุ่มคนนั้น เอามาเขียนใน blog ทำนองที่ว่าได้รับเชิญเป็น VIP ในงานเปิดตัว iphone ด้วยนะ
เอาสร้างเครดิตให้กับตัวเองได้ดีจริงๆ

--------------------------------

คดี 6 หลอกสาว

เนื่องจากเวปที่แนะนำ มักจะเดี้ยง bandwtich เกินบ่อยๆ

ขออนุญาตมาแปะ

อันนี้จาก blog ของคุกกี้
-----------

ผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิต


คุณคิดว่าคุณจะทนคบกับผู้หญิงแบบนี้ได้นานที่สุดเท่าไร ?

1. โทรหาคุณซ้ำ ๆ จนกว่าจะรับสาย แม้ว่าคุณจะยุ่งมาก หรือขับรถอยู่ก็ไม่ยอมเลิก ยิงเรื่อย ๆ จนกว่าจะยอมแพ้

2. แม้ว่าคุณจะบอกว่า "ทานข้าวกับคุณแม่อยู่ " "ขับรถอยู่บนทางด่วน" "งานเร่งมาก ๆ" "อาบน้ำอยู่" แต่ผู้หญิงคนนี้ก็จะชวนคุยต่อเสมือนว่าคุณไม่ได้พูดอะไรเลย

3. โทรหาตามใจตัวเอง แม้ว่าจะเป็นเวลาตี 1 - ตี 2 ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผมนอนอยู่ห้องเดียวกับคุณแม่

4. พยายามหาวิธีติดต่อเพื่อน ๆ ผม เพื่อโทรไปหาข้อมูลว่าผมทำอะไรอยู่ สนิทกับใคร มีนัดอะไรวันไหน แล้วก็ไปเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังเพิ่มว่า เธอรู้ตารางชีวิตผมหมดเลยนะ

5. แล้วก็ตามไปโผล่ตามสถานที่ที่ผมไป แทรกเข้าไปแนะนำตัวกับคนร่วมโต๊ะผม นั่งร่วมโต๊ะทั้งที่ไม่รู้จักกัน และครั้งถัดมาก็โทรหาเพื่อนผมที่เพิ่งเจอกัน เพื่อขอตามมาเจอผม

6. เมื่อตามหาตัวผมไม่เจอ ก็บุกไปที่ทำงานหรือสถานที่ที่เพื่อนผมทำงานอยู่

7. ตื๊อพยายามชวนไปข้างนอก ดูหนังกินข้าว ทั้งที่วันนั้นผมมีนัดล่วงหน้านานแล้ว แต่ก็หาทางให้ผมเลิกนัดอื่น แม้จะเป็นการขับรถพาคุณแม่ไปธุระก็ตาม

8. คุยเรื่อง Dirty Joke ทั้งที่รู้ว่าผมเกลียดมุขตลกสกปรกฝรั่ง

9. ทุกครั้งที่เจอหน้าจะทักว่า "อ้วนขึ้นนะ" "สิวขึ้นอีกแล้ว" "ผมรุงรังมาก" "ทำไมดำกว่าเดิม" "แต่งตัวไม่ได้เข้ากันเลย"

10. ทั้งที่ผมบอกไปแล้วว่าผมรำคาญอะไรบ้าง บอกไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ปรับแก้ไขนิสัยได้ไม่เกิน 7 วัน

เมื่อ หลายปีก่อน ผมเคยรู้จักกับผู้หญิงที่เป็นแบบนี้ทั้ง 10 ข้ออยู่หนึ่งคน ภายหลังรู้จักกันในช่วงเวลาไม่นานนัก ผมก็โดนเพื่อนรุมด่า เพราะผู้หญิงคนนี้ไล่หาเบอร์โทรเพื่อนผม แล้วโทรไปทีละคน ๆ

และ ทั้ง 10 ข้อที่ผมเจอนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ใช้กับเพื่อน ๆ ผมด้วย ไม่ใช่แค่นั้น คนที่บ้านผมก็ยังรำคาญผู้หญิงคนนี้มาก ก็ด้วยเหตุผลที่เขียนมานี่ละ

แต่ที่มหัศจรรย์สุด ๆ ก็คือผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ผมรำคาญ และคนรอบข้างผมก็รำคาญมากพอกัน จนผมโดนด่าว่าทำไมปล่อยให้คน ๆ นี้ก่อกวนชีวิตพวกเขาหนักมาก ๆ

เมื่อผมยกเรื่องนี้มาพูด ผู้หญิงคนนี้ก็จะร้องไห้แล้วเล่นบทนางเอกทันทีว่า แค่อยากรู้จักเพื่อนผม แค่คุยเฉย ๆ ทำไมทุกคนต้องรุมใส่ร้ายเธอด้วย

แล้วพอผมไปเล่าให้ เพื่อนฟังแบบนี้ ผมก็โดนเพื่อนด่าซ้ำ หลังจากนั้นมันก็เกิดขึ้นอีก จนเพื่อนผมต้องยื่นคำขาดว่า จะหนีผู้หญิงคนนี้ไปให้พ้น ๆ หรือว่าจะเลิกคบกับพวกเขาแทน

ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผมเกลียดผู้หญิงไปพักใหญ่ ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้หญิงมันเป็นตัวน่ารำคาญทั้งโลก

ผม จำได้ว่าเพื่อน ๆ น้องสาวและแม่ผมด่าผู้หญิงคนนี้หลายครั้ง และผมก็ไม่คิดว่า ในชีวิตนี้ จะมีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้แม่ผมต้องด่าแบบนี้ซ้ำ ๆ อีกด้วย 10 ข้อที่ว่ามานี้

อ่านจบแล้วคิดว่าไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ...

ผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่าในชีวิตผมจะเจอผู้หญิงแบบนี้ แม่ผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลย

Create Date : 27 กรกฎาคม 2551
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 1:51:19 น. 13 comments
---

(ขอลง link เพื่ออ้างอิงเฉยๆ เพราะว่าจริงๆ ก็ไม่อยากไปเพิ่มจำนวนคนเข้าดูสักเท่าไหร่

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cookiecompany&month=07-2008&date=27&group=3&gblog=37 )

มงคลสูตร 38 ประการ( แนวทางการดำเนินชีวิต)

มงคล คืออะไร ใน 3 วัยที่สำคัญ


มงคล คือ เหตุแห่งความเจริญ หรือเครื่องหมายแห่งความเจริญ

มงคลในศาสนาพุทธ
มงคล ในศาสนาพุทธ คือ การนิมนต์ขอให้พระภิกษุสวดมงคลสูตร เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความเจริญ หรือเพื่อให้เกิดความสิริมงคล ในงานพิธีที่เป็นมงคลต่าง ๆ พระสงฆ์จะต้องสวดมนต์บทนี้เสมอ เรียกกันว่า เป็นบทบังคับก็ว่าได้ เมื่อพระสงฆ์เริ่มต้นสวดมงคลสูตร (อะเสวะนา...) จะเป็นช่วงที่เจ้าภาพจะต้องเดินไปจุดเทียนที่ บาตรน้ำมนต์ จากนั้นประเคนบาตรน้ำมนต์แก่ประธานในพิธีสงฆ์ เมื่อสวดมงคลสูตรจบแล้ว พระภิกษุก็จะ รดน้ำมนต์ ให้แก่ผู้มาร่วมพิธีกรรม เพื่อมอบความเป็นมงคลให้ หรือมอบความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ผู้มาร่วมงานมงคล

ความจริง มงคลสูตร 38 ประการนั้น มีประโยชน์มากถ้านำไปปฏิบัติ (มิใช่การรับแต่น้ำมนต์ที่ประพรม การรับน้ำมนต์โดยไม่ปฏิบัติจะไม่เกิดประโยชน์) จะเป็นมงคลแก่ผู้ปฏิบัติตามอย่างแท้จริง พระพุทธองค์ทรงเทศนาเรียงลำดับข้อไว้อย่างมีระเบียบดียิ่ง เพื่อให้เป็นหลักปฏิบัติตามลำดับอายุของมนุษย์ เริ่มแต่ ปฐมวัย, มัชฌิมวัย และ ปัจฉิมวัย โดยขอยกตัวอย่างให้ท่านผู้อ่านเห็นดังต่อไปนี้

ปฐมวัย
ใน ที่นี้ขอกำหนดว่ามนุษย์ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี เรียกว่าปฐมวัย ปกติเป็นวัยที่ยังไม่สมควรจะออกครองเรือนตามลำพังตน ควรเป็นวัยแห่งการศึกษาเล่าเรียน เป็นระยะเวลาของการเตรียมตัวที่จะออกไปครองเรือนในอนาคต มักจะอยู่ในความปกครองของบิดามารดา พวกปฐมวัยควรปฏิบัติตามมงคลสูตรตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 10 อย่างเคร่งครัด คือ
1. ไม่ให้คบคนพาล (เพื่อจะได้ไม่ตกต่ำในทางที่ชั่ว)
2. ให้คบบัณฑิต (เพื่อให้พบแต่ความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต)
3. ให้บูชาบุคคลที่ควรบูชา (เพื่อให้เกิดแบบอย่างที่ดี)
4. ให้อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม (เพื่อสะดวกในการศึกษาเล่าเรียน)
5. ให้สะสมบุญเรื่อยไป (เพื่อเป็นทุนไปสู่ความสุขสำเร็จ)
6. ให้ตั้งตนไว้ชอบ (เพื่อให้มีเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง)
7. ให้เป็นผู้ฟังมาก (เพื่อจะได้มีความรอบรู้)
8. ให้ศึกษา ศิลปวิทยา (เพื่อให้มีพื้นฐานการประกอบอาชีพการงานที่ดี)
9. ให้มีระเบียบวินัยดี (เพื่อให้มีหลักการที่ดีในการดำรงชีวิต)
10. ให้มี วาจาสุภาษิต (เพื่อให้เกิดความมีเสน่ห์ในตัวเอง)

ถ้า ผู้ที่มีอายุภายใน 25 ปีแรกของชีวิต ได้ลงมือปฏิบัติตามมงคลสูตรเพียง 10 ข้อ ดังกล่าวนี้ บุคคลเหล่านี้จะเป็นคนดี เข้าไหนเข้าได้ เพราะสังคมต้อนรับ ปราศจากผู้รังเกียจ พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเพื่อประโยชน์แก่ปวงชน ถ้าเราเคารพพระพุทธองค์อย่างแท้จริงแล้ว เราก็สมควรนำมงคลสูตรของพระพุทธองค์มาเป็นข้อปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตน ซึ่งนับว่าเป็นมงคลแก่ตนเองเป็นอย่างยิ่ง

มัชฌิมวัย
ใน ที่นี้ ขอกำหนดว่ามนุษย์ที่มีอายุตั้งแต่ 26 ปี ถึงอายุ 50 ปี เรียกว่าอยู่ในช่วง “มัชฌิมวัย” เป็นวัยที่ต้องดำเนินชีวิตไปตามลำพัง ไม่ควรจะต้องพึ่งบิดามารดาอีกต่อไป ต้องออกไปเผชิญกับเหตุการณ์ของสังคมโลก เป็นวัยที่จะต้องตั้งตัวตั้งหลักฐาน รับผิดชอบในการดำรงชีวิต ในมัชฌิมวัยควรปฏิบัติตามมงคลสูตรเพิ่มขึ้นอีก 20 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 11 ถึงข้อ 30 คือ
11. ให้ บำรุงบิดามารดา (เป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณคน)
12. ให้ สงเคราะห์บุตรธิดา (เป็นแบบอย่างที่ดี)
13. ให้ สงเคราะห์ภรรยา (เป็นการแสดงความรับผิดชอบ)
14. ไม่ให้การงานอากูล (กิจการงานใดไม่คั่งค้าง)
15. ให้ บำเพ็ญทาน (จิตใจจะมีเมตตาสูง)
16. ให้ ประพฤติธรรม (เพื่อความสงบของชีวิต)
17. ให้ สงเคราะห์ญาติ (เกิดเคราะห์ร้ายก็มีญาติช่วย)
18. ให้ ประกอบการงานดี ไม่มีโทษ (อาชีพสุจริตชีวิตปลอดภัย)
19. ให้ เว้นจากการทำบาป (เพื่อไม่ต้องชดใช้หนี้กรรม)
20. ให้ เว้นจากการเสพของเมา (ให้เป็นคนมีสติอยู่เสมอ)
21. ไม่ให้ประมาทในธรรมทั้งหลาย (ให้มีความคิดรอบคอบ)
22. ให้ เคารพบุคคลที่ควรเคารพ (เราจะได้รับความเคารพตอบ)
23. ไม่ให้เย่อหยิ่ง (จะมีคนให้ความนับถือ)
24. ให้ มีสันโดษ (จิตใจจะไม่วุ่นวาย)
25. ให้ มีความกตัญญู (เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดี)
26. ให้ ฟังธรรมตามกาล (เพื่อให้มีดวงตาเห็นธรรม)
27. ให้ มีขันติ (จิตใจจะมีความสุขสงบ)
28. ให้ เป็นผู้ว่าง่าย (ทำให้ได้รับความรักจากผู้อื่น)
29. ให้ เข้าหาสมณะผู้สงบ (ทำให้เข้าใจธรรมะที่แท้จริง)
30. ให้ สนทนาธรรมตามกาล (ทำให้มีปัญญาเพิ่มพูล)

ถ้า มนุษย์อายุระหว่าง 26 ปี ถึง 50 ปี ได้ลงมือปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์เพิ่มขึ้นอีก 20 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 11 ถึงข้อ 30 ดังกล่าวนี้ บุคคลเหล่านั้นจะประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในการดำรงชีวิต จะไม่ประสบความทุกข์ แม้ในขณะที่ถึงอายุขัยที่จะตาย วิญญาณก็จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ถ้าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีฐานะสูง ถ้าเราเคารพพระพุทธองค์อย่างแท้จริงแล้ว เราก็สมควรนำมงคลสูตรของพระพุทธองค์มาเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตน ความเป็นมงคลก็จะเกิดแก่ตนเองและครอบครัว

ปัจฉิมวัย
ใน ที่นี้ ขอกำหนดว่ามนุษย์มีอายุตั้งแต่ 51 ปี ถึงสิ้นอายุขัย เป็นระยะชีวิตที่จะต้องช่วยตัวเองแสวงหา อริยทรัพย์ อริยสมบัติ เพราะเป็นช่วงเลยกึ่งกลางของชีวิต เดินทางเข้าสู่บั้นปลายของชีวิตเหมือนต้นไม้ใกล้ฝั่ง จะล้มลงเมื่อใดก็ได้ ควรจะช่วยตนเองในการสร้างอริยสมบัติก่อนตาย ซึ่งไม่มีใครจะช่วยเราได้ โดยช่วยให้วิญญาณของเรามีคุณสมบัติสูงกว่าเดิม วิธีช่วยตัวเองนับว่าดีที่สุดนั้น คือการหาโอกาสฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ ด้วยการวิปัสสนากรรมฐาน อาจจะศึกษาเรื่องความตายเพื่อจะได้ตายนอกสมมติ คือการหลุดพ้นจาก สังสารวัฏ ไม่ควรให้ตายในสมมติคือการหมุนเวียนอยู่ในวัฏสงสารเท่านั้น การตายในสมมตินั้น จะต้องกลับมาเกิดเพื่อรับความทุกข์ต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วิธีปฏิบัติเพื่อให้ตายนอกสมมตินั้น คือการปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์ โดยปฏิบัติเพิ่มขึ้นอีก 8 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 31 ถึงข้อ 38 คือ
31. ให้บำเพ็ญเพียรเผากิเลสให้หมดไป (ด้วยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน)
32. ให้ ประพฤติพรหมจรรย์ (ออกบวช หรือ บวชใจด้วยเนกขัมมบารมี)
33. ให้เห็นแจ้งในอริยสัจ (ให้ตระหนักรู้ในทุกข์ และเหตุที่เกิดทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีดับทุกข์)
34. ให้ทำนิพพานให้แจ้ง (วิปัสสนาภาวนาจนได้นิโรธสมาบัติ)
35. ไม่ให้จิตหวั่นไหวในโลกธรรม (ทำจิตไม่ให้ติดยึดในลาภ/ยศ/สรรเสริญ/สุข)
36. ไม่ให้จิตเศร้าหมอง (ทำจิตให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)
37. ไม่ให้จิตมีมลทิน (ทำจิตให้เป็นอุเบกขาตลอดเวลา)
38. ให้มีจิตเกษม (ไม่ให้มีเครื่องดึงรั้งไว้ในภพคือถึงซึ่งพระนิพพาน)

มงคลสูตร ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตั้งแต่ข้อ 31 ถึงข้อ 38 นี้ มีพุทธประสงค์จะให้ช่วยตัวเองไปทาง โลกุตตรธรม ช่วยให้ตายนอกสมมติ คือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นการหลบหนีการเกิด เพราะว่า พระตถาคต สั่งสอนให้ตระหนักว่า “การเกิดเป็นทุกข์” ชาวพุทธที่มีอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป เมื่อบุตรธิดามีอาชีพการงาน หรือสามารถดำรงชีวิตได้ตามลำพังแล้ว หรือ ทรงตัวได้ดีบนขาของเขาได้แล้ว ชาวพุทธผู้มีอายุสูงก็สมควรช่วยตนเองไปในทาง โลกุตตรวิสัย ควรฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ ด้วยการวิปัสสนากรรมฐานให้มาก และให้บ่อย หากปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์เช่นนี้ ความเป็นมงคลก็จะเกิดแก่วิญญาณของตน เมื่อกายแตกละจากโลกนี้ไป วิญญาณของตนก็จะไปสู่ สุคติภูมิ หรือพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

ถ้าเรา สมมติว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นแม่ครัว พระพุทธองค์ทรงปรุงอาหารไว้ เพื่อคน 3 วัย วัยแรกเพื่อให้มนุษย์ในปฐมวัยได้บริโภค วัยที่ 2 เพื่อให้มนุษย์ในมัชฌิมวัยได้บริโภค และวัยที่ 3 ปรุงไว้ให้มนุษย์ในปัจฉิมวัยได้บริโภค แต่มนุษย์จะบริโภค หรือไม่บริโภคนั้น เป็นเรื่องของมนุษย์ที่สามารถเลือกเส้นทางของตนเองได้ พระตถาคต ได้แต่ทรงปรุงอาหารไว้ให้เท่านั้น และทรงชี้ทางให้โดยมีพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
จึงขออนุญาตเชิญ ชวนเพื่อนพนักงานทุกระดับ และทุกท่าน หันมาบริโภคอริยทรัพย์ด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คิดดี พูดดี และทำดี ให้ตลอดอายุขัยของเรา นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปเถิด

สารชมรมศาสนาและการกุศล เรื่องที่ 3 

ของดีราคาถูกใครว่าไม่มี [รีวิว “Samsung Galaxy Mini” Android Smart Phone]

หลังจากจดๆจ้องๆมานาน ใช้ปาล์ม T3 นานแปดปีไม่ยอมพัง ต้องหา Smart Phone มาแทนที่มัน
เบื่อแล้วพกหลายๆเครื่อง เดือนมีนาคมนี้เลยสอย “Samsung Galaxy Mini” ซึ่งเป็น Android Smart Phone ในราคาโคตรคุ้ม จ่ายด้วยราคา 5,800 ที่ศูนย์ได้แถมข้าวสาร และเสื้อเชลซีแท้ๆด้วย ฮ่าๆๆๆๆ

ทำไมต้องแอนดรอย -> http://thoshiro.blogspot.com/2011/03/android.html

ทำไมต้อง SAMSUNG -> http://thoshiro.blogspot.com/2011/03/samsung.html


        โคตรคุ้มเพราะว่ามันให้มาเยอะจริงๆ เทียบกับ BB หรือ Iphone แล้วไม่รู้สองตัวนั้นแพงเพราะอะไร
เลยไม่ซื้อมันเล่นเจ้านี่ดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้ใช้อะไรมากมายไม่ต้องเทพ แค่นี้เหลือเฟือดูสเปคกันดีกว่า
- รองรับ 3G HSDPA คลื่น 900/2100 MHz (DL 7.2 Mbps)
- หน้าจอ TFT-LCD ทัช Capacitive 3.14 นิ้ว (ความละเอียด 240×320 พิคเซล)
- เบาหวิวเพียง 105 กรัม  บางกว่า BB ด้วยอ่ะ
- Android 2.2.1 + TouchWiz 3.0
- รองรับ WiFi N
- ชิปซีพียู Qualcomm MSM7227 (ARM11 600MHz + Adreno 200), แรม 384 MB
- เมมโมรี่ภายใน 160MB, (เพิ่มเมมภายนอก 32GB แถม SDcard 2GB)
- FM, MP3
- กล้อง 3 ล้านพิคเซล ถ่าย VDO ได้15fps
- แบตเตอรี่ 1200 mAh

ความคิดเห็น
                          รวมๆถือว่าดีมากเลยครับ ซื้อ smart phone ในราคามากกว่ามือถือทั่วๆไปหน่อยนึง แต่ใช้ประโยชน์ได้มหาศาล รูปร่างสวยบางเบาใช้งานง่าย มีภาษาไทยมาให้แล้ว คีย์บอร์ดแบบ Swipe ด้วยนะ แค่ลากไปๆมาๆไม่ต้องจิ้มสะดวกมากๆ ความละเอียดหน้าจอก็ไม่ถือว่าหยาบ มันก็สมราคาขนาดจอกำลังดีเลย  เครื่องเร็วพอสมควรไม่แฮงค์ง่าย ใช้โทรเข้าออกทั่วๆไปแบตก็จะอึดดี  แต่ถ้าต่อเน็ตโหลดข้อมูล เปิด Bluetooth GPS แบตก็จะหมดไวไปนิด อิอิ แต่ยังสามารถใช้ได้ทั้งวันกลับมาชาร์จตอนนอนได้ครับ  ล่าสุดเลิกเห่อแล้ว ใช้โทรเข้าออกบ้างเข้าเว็ปนิดหน่อย อยู่ได้ 2 วันสบายเลยครับ

มือถือ SAMSUNG ดียังไง ทำไมชอบซัมซุง

      SAMSUNG เป็นสินค้าจากเกาหลี แรกๆที่เข้ามาขายในไทยมีแต่เครื่องไฟฟ้า หน้าตาเชยๆราคาถูก ดีกว่า Goldstar เพื่อนร่วมชาติหน่อยนึง (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น LG แล้ว)

มือถือ SAMSUNG รุ่นแรกๆดียังไงผมยังไม่สนใจ แต่เอ๊ะทำไมคนญี่ปุ่นที่ผมรู้จักมันใช้ซัมซุงล่ะ เจ้าเครื่องในรูปนี่แหละ ตอนออกใหม่ๆเมื่อแปดเก้าปีที่แล้ว

ลองสอบถามเขาว่าชอบซัมซุงรึไง (ปกติพวกนี้จะใช้ของยุ่นเท่านั้น Pana หรือ Sony Ericsson) เค้าบอกว่าเปล่า ที่ซื้อเพราะมันคุณภาพดีและไม่แพง  อ่า งงสิครับเกาหลีทำของดีๆเป็นด้วยรึ พวกยุ่นยอมรับเลยรึ
ต่อมาได้ศึกษาข้อมูลก็ทราบว่าซัมซุงมันโค่นโซนี่ได้ก็แล้วกัน  เจ๋งโคตรๆๆๆ

     ต่อมาสี่ปีที่แล้วผมลองซื้อเครื่องแรก เป็นฝาพับสีดำๆราคาเบาๆ แต่พอใช้ไป อืม
ฝามันทนทานดี ปิดเปิดไม่มีปัญหา เสียงใสไพเราะ คลื่นก็ดี น้ำหนักเบา ใช้ทน เอ ดีกว่าโนเกียนะ

    ปีที่แล้วลองซื้้อให้แม่ยายและแม่ย่าใช้คนละเครื่องมันก็แจ๋ว ผมเลยซื้อ L700 มาใช้อีกเครื่อง (เค้าเรียกรุ่นแพนเค้กเลยนะตัว) ก็ดูสวยหรู ใช้ง่าย เสียงดี กล้องชัด รวมๆถูกใจเหมือนเดิม


 ปีนี้จัดอีกสองเครื่องไปเลย อิอิ

ของเรา (ต้อง Hi tech)

ของเมีย (ต้องสองซิม)

สรุปว่า สินค้ายี่ห้อนี้จากแดนกิมจิ คุณภาพเค้าดีสู้โซนี่ได้สบาย ดีไซน์สวยหรู ดูดี ใช้งานง่ายทนทาน
ราคาก็ไม่แรง ไม่ชอบก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วครับผม

Android คืออะไร ทำไมต้องแอนดรอย


              Android หรือ Google Android คือระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่กูเกิ้ลได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ทำงานบนระบบโทรศัพท์มือถือ :ซึ่งมีการพัฒนามาจากระบบปฏิบัติการลินุกซ์ (Linux) โดยเป็นซอฟท์แวร์แบบเปิดหรือโอเพ่นซอร์ส (Open Source)

กูเกิ้ลซื้อกิจการของบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งเพื่อทำโครงการนี้ แอนดรอยด์เป็นที่รู้จักของผู้คนเมื่อทางกูเกิ้ลได้ออกมาประกาศว่าได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทต่างๆ  48 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์และการสื่อสาร เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับอุปรณ์มือถือ ในวันที่ 5 พฤศจิการยน 2550  และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปี โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์เครื่องแรกได้ออกวางจำหน่ายในชื่อ HTC Dream  ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ได้ออกมามากมายหลายยี่ห้อและหลายรุ่นมาก ที่เห็นๆในบ้านเราก็มี SAMSUNG, Sony Ericcson และอื่นๆ

ความสามารถในการทำงานและความเร็วนั้นจัดว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว ราคาเครื่องก็มักไม่ค่อยแพง อีกทั้งแอป (App หรือโปรแกรม) ต่างๆก็มีสนับสนุนเยอะมากโดยไม่ต้องจ่ายเงิน  หรือถ้าจะซื้อก็ถูกมากๆ เป็นการลงทุนที่ผมคิดว่าคุ้มกว่าของ Apple เอามากๆ 
ส่วนตัวผมเองจับตามองแอนดรอยมานานพอสมควรจนแน่ใจว่าตัวนี้ไม่ดับแน่ (เหมือนที่ Symbian แป้กมาแล้ว) จึงได้ซื้อมาใช้กับเค้าบ้าง