ThoShiRo's โต(ชิโร่) Blog ธรรมดาสามัญประจำบ้าน เขียนด้วยคำง่ายๆอ่านสบายๆ
Contact
เก็บเรื่องราวเอามาแบ่งปัน คุยกันแบบกันเอง
Contact me: thoshiro @live.com or thoshiro007 @gmail.com
วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554
ปริญญาสองใบ คุณเลือกใบไหน
ปริญญาสองใบ
ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมากคือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก
เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร
เรียนที่อเมริกาเป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิสทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน
ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดูว่าสะอาดจริงมั้ย
กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย
ต้องให้ดีที่สุดเวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน
แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สอง
แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สามใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย
แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจมีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง
วันหนึ่งแกพักผ่อนหลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย
ลูกเมียไปขอพบ บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต
วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุบลงไป
ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็งพอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย
จริงๆ เค้าก็เตือนตลอดแต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้
แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน
บันทึกชีวิตแก ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว
แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่
กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก
ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า
พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ
ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น
พูดง่าย ๆล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ
แต่"ปริญญาวิชาชีวิต"ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้
แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ
แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร? เพราะทำงานจนป่วยตาย
ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่างบ้าน รถ
มอบมันให้กับลูกและภรรยาแต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา
สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้
สิ่งที่ว่านี้คือ ผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย
เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย
นี่คือปริญญาวิชาชีวิต
ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ
เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเองที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี
ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้วอย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวัน
แต่ละวันควรจะมี ให้ดูแลตัวเองดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์
มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่าแบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า
พยายามลดลงในแต่ละวันๆเพื่อที่ว่าอะไร
เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิตหนึ่งปริญญาวิชาชีพ
เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่งมีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่
แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สองคือวิชาธรรมะ
สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป
ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข
อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ
ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง
อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุดและมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร
เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา
เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน
บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์
พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต
สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อย.
(ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา ของท่าน ว.วชิรเมธี ที่ได้ไปเทศน์ที่เมืองเคนเนบัง รัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา)
Create Date : 19 มกราคม 2551
Last Update : 19 มกราคม 2551 9:50:47 น.
อ่านแล้วเข้าใจ ชีวิตมากขึ้นเลยครับ จริง ๆ แล้วส่วนตัวก็ชอบ ดร.อภิวัฒน์ ตั้งแต่ทำรายการจันทร์กระพริบแล้วครับ ถือว่าเป็น perfectionist จริง ๆ...เศร้าใจมากที่ต้องเสียคนดี ๆ และเก่ง ๆ ไปเพราะมะเร็ง
โดย:
Liza Minnelli
วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:10:17:56 น.
ทำงานหนักก็เพื่อครอบครัว เพื่อลูกเมีย แต่บางทีมันอาจจะไม่ใช่คำตอบของชีวิตก็ได้
คนเราบางทีไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้าก็มีความสุขได้ ขอเพียงรู้จักหาความสุขให้
กับชีวิตบ้าง ยิ่งคิดว่าไม่พอ เราก็จะยิ่งไม่พอจริงๆ
รู้สึกสะเทือนใจ กับ ดร. ด้วยจริงๆครับ น่าจะเป็นอุทราหรณ์ให้หลายคน ที่ยัง
บ้าทำงานอยู่
"หันกลับมาหาครอบครัวบ้าง เ้ค้าต้องการอะไรจริงๆ"
โดย:
chengake
วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:11:46:53 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น